คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5495/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ตายเมาสุรากล่าววาจาล่วงเกินจำเลยโดยกล่าวว่าทำงาน ไม่เป็นแต่ได้ค่าแรงแพงทำงานผิดแล้วไม่ยอมรับผิด ทำงานเป็นช่างไม้ได้ ไม่เท่าไรทำเป็นอวดเก่ง และด่าแม่จำเลย ผู้ตายพูดจาถากถางซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ครั้นจำเลยจะกลับก็ไม่ยอมให้กลับ พฤติการณ์เหล่านี้เห็นได้ว่าผู้ตายกล่าววาจาและกระทำการอันเป็นการดูถูกเหยียดหยาม เป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมจนจำเลยบันดาลโทสะ จึงไปหยิบค้อนมาตีผู้ตายในขณะนั้น ดังนี้ เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 วางโทษจำคุกไว้มีกำหนด 18 ปี คำรับชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ สมควรลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงให้จำคุกไว้มีกำหนด 12 ปีริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ของกลางคืนเจ้าของ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า จำเลยใช้ค้อนตีผู้ตายถึงแก่ความตาย ปรากฏตามรายงานชันสูตรพลิกศพท้ายฟ้อง ปัญหาจะต้องวินิจฉัยมีว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่…ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยตีผู้ตายขณะผู้ตายนั่งอยู่โดยมิได้ทำร้ายจำเลย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 แต่จากพยานหลักฐานทั้งหมดข้อเท็จจริงฟังสอดคล้องกันว่า การที่จำเลยตีผู้ตายเนื่องจากผู้ตายเมาสุรากล่าววาจาล่วงเกินจำเลย โดยกล่าวว่าทำงานไม่เป็นแต่ได้ค่าแรงแพง ทำงานผิดแล้วไม่ยอมรับผิด จำเลยทำงานเป็นช่างไม้ได้ไม่เท่าไรทำเป็นอวดเก่ง และด่าแม่จำเลย ผู้ตายพูดจาถากถางซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ครั้นจำเลยจะกลับก็ไม่ยอมให้กลับพฤติการณ์เหล่านี้เห็นได้ว่าผู้ตายกล่าววาจาและกระทำการอันเป็นการดูถูกเหยียดหยาม เป็นการข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุไม่เป็นธรรมจนจำเลยบันดาลโทสะ จึงไปหยิบค้อนมาตีผู้ตายในขณะนั้น เป็นการกระทำโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72…”
พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ประกอบด้วยมาตรา 72 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด 3 ปี ริบของกลาง.

Share