คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1615/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ขอให้ออกคำบังคับ ยังไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดี เพราะหากลูกหนี้ตามคำพิพากษายอมปฏิบัติตามคำบังคับโดยครบถ้วน เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ย่อมได้รับชำระหนี้สิ้นเชิงโดยไม่ต้องขอให้บังคับคดี และศาลก็ไม่ต้องออกหมายบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 275,276 ดังนั้น แม้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะได้ขอให้ศาลออกคำบังคับภายใน 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา ก็ถือไม่ได้ว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้เริ่มต้นดำเนินการบังคับคดีตามมาตรา 271 แล้ว การที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีถือได้ว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้เริ่มต้นดำเนินการบังคับคดีแล้ว แต่ถ้า ได้ดำเนินการบังคับคดีเมื่อพ้นกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวได้กลายเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหมดสิทธิที่จะบังคับคดีเสียแล้ว เมื่อเจ้าหนี้นำมาขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย หนี้ดังกล่าวย่อมอยู่ในฐานะเป็นหนี้ที่จะร้องขอให้บังคับคดีไม่ได้ จึงต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตาม พ.ร.บ. ล้มละลายฯมาตรา 94(1).

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากกรมสรรพากรได้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์จำเลย (ลูกหนี้)เด็ดขาด เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2531 ธนาคารมหานคร จำกัดเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาจำนวน 29,474.67 บาทจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายา พ.ศ. 2483 มาตรา 104 แล้ว ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว เห็นว่า หนี้ตามคำพิพากษาที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้จากองทรัพย์สินของลูกหนี้เป็นหนี้ที่ขาดอายุความแล้ว ต้องห้ามมิให้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94(1) จึงควรยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
เจ้าหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่ไม่ได้เถียงกันในชั้นฟังได้ว่า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักา์ทรัพย์ลุกหนี้เด็ดขาดเมื่อวันที่13 กันยายน 2531 หลังจากนั้นเจ้าหนี้ได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาพร้อมดด้วยดอกเบี้ยเป็นจำนวน 29,474.67 บาทเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2531 โดยนี้รายนี้ ศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 7997/2531 ให้ลูกหนี้ชำระแก่เจ้าหนี้เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2514 เจ้าหนี้ได้ขอให้ศาลชั้นต้นออกคำบังคับเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2524 ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามคำบังคับเจ้าหนี้จึงได้ขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีเมื่อวันที่ 17ธันวาคม 2524 แต่ต่อมาลูกนหี้ไดถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด เจ้าหนี้จึงมายื่นคำขอรับชำระหนี้ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น คดีมีปัญหาข้อกฎหมายตามฎีกาของเจ้าหนี้ว่า หนี้ตามคำพิพากษารายดังกล่าวเป็นหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ได้หรือไม่ ในปัญหาข้อนี้เจ้าหนี้ฎีกาว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 คู่ความฝ่ายซึ่งชนะคดีหรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาาาหรือคำสั่งได้ภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่งโดยอาศัยและตามคำบังคับที่ออกตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นกรณีในคดีนี้เมื่อเจ้าหนี้ได้ขอให้ศาลชั้นต้นออกคำบังคับเมื่อวันที่10 เมษายน 2524 ก็ต้องถือว่าเจ้าหนี้ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ร้องขอให้บังคับคดีภายในกำหนดเวลา 10 ปี แล้ว เพราะการบังคับคดีย่อมจะเริ่มต้นจากการขอให้ออกคำบังคับ หลังจากนั้นเจ้าหนี้จึงมีสิทธิบังคับคดีเพื่อให้ได้รับชำระหนี้ตามคำพิพากษานั้นได้แม้จะล่วงเลยกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาไปแล้วก็ตามและด้วยเหตุนี้เจ้าหนี้จึงมีสิทธินำหนี้รายดังกล่าวมาขอรับชำระหนี้ในคดีนี้ได้ ศาลฎีกาพิเคราะห์ฎีกาดังกล่าวของเจ้าหนี้แล้วเห็นว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 271 ที่บัญญัติว่า”…คู่ความหรือบุคคลซึ่งเป็นฝ่ายชนะ (เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา) ชอบที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ภายในสิบปีนับแต่วันมีคำพิพากษาหรือคำสั่งโดยอาศัยและตามคำบังคับที่ออกตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น” หาได้มีความหมายว่า เมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ขอให้ศาลออกคำบังคับแล้วย่อมถือว่าได้เริ่มต้นบังคับคดีแล้ว ดังที่เจ้าหนี้กล่าวอ้างในฎีกาไม่ เพราะการออกคำบังคับเป็นแต่เพียงการออกข้อกำหนด แจ้งให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาทราบถึงกำหนดเวลาและเงื่อนไขในการชำระหนี้ตามคำพิพากษาและวิธีการบังคับที่จะนำมาใช้แก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาในเมื่อไม่ปฏิบัติตามคำบังคับเท่านั้น ยังไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของการบังคับคดี ดังจะเห็นได้ว่า หากลูกหนี้ตามคำพิพากษายอมปฏิบัติตามคำบังคับโดยครบถ้วน เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ย่อมได้รับชำระหนี้สิ้นเชิงโดยไม่ต้องขอให้บังคับคดี และศาลก้ไม่ต้องออกหมายบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 275, 276 การที่เจ้าหนี้ได้ขอให้ศาลชั้นต้นออกคำบังคับเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2534 จึงถือไม่ได้ว่าเจ้าหนี้ได้เริ่มต้นดำเนินการบังคับคดี แม้จะได้กระทำภายใน 10 ปีนับแต่วันที่มีคำพิพากษาก็ตามส่วนการที่เจ้าหนี้ได้ขอให้ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2524นั้น ถือได้ว่าเจ้าหนี้ได้เริ่มต้นดำเนินการบังคับคดีแล้วแต่ก็เป็นการดำเนินการเมื่อพ้นกำหนดเวลา 10 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา ซึ่งหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวนั้นได้กลายเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ในฐานะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาหมดสิทธิที่จะบังคับคดีเสียแล้ว เมื่อจะนำมาขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย หนี้ดังกล่าวย่อมอยู่ในฐานะเป็นหนี้ที่จะร้องขอให้บังคับคดีไม่ได้ ซึ่งต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 มาตรา 94(1)…”
พิพากษายืน.

Share