แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระหนี้ให้ ส.แล้วส.นำไปแลกเงินสดจากโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมนำเช็คดังกล่าวฝากเข้าบัญชีของบริษัทเงินทุนช. เพื่อให้เรียกเก็บเงินแทนให้ทันในวันเดียวกัน เนื่องจากเป็นเช็คขีดคร่อมและโจทก์ร่วมเป็นลูกจ้างของบริษัทเงินทุนดังกล่าวนั้น โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตามกฎหมาย เมื่อขึ้นเงินตามเช็คไม่ได้ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายที่จะร้องทุกข์ได้ ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 3 ได้ยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497และเป็นกฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลย จึงให้ใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534แทน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับพวกอีก 1 คน ได้ร่วมกันออกเช็คธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนหลังสวน ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2529สั่งจ่ายเงินจำนวน 128,817 บาท ชำระหนี้ให้นายสันติ พูลเกษรในวันเดียวกันนั้นเองนายสันติได้โอนเช็คฉบับดังกล่าวชำระหนี้ให้นางสาวนิรมล พูลเกษร ผู้เสียหาย ซึ่งได้นำเช็คฉบับดังกล่าวไปเรียกเก็บเงินโดยผ่านบัญชีของบริษัทเงินทุนชาติไพบูลย์ จำกัดเพื่อเรียกเก็บเงินแทน ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเนื่องจากเงินในบัญชีไม่พอจ่าย และบัญชีปิดแล้ว ทั้งนี้จำเลยทั้งสองกับพวกได้ร่วมกันออกเช็คดังกล่าวโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และออกเช็คให้ใช้เงินมีจำนวนสูงกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้ได้ในขณะที่ออกเช็คนั้น เหตุเกิดที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ และแขวงลุมพินี เขตปทุมวันกรุงเทพมหานคร เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83
ระหว่างพิจารณา นางสาวนิรมล พูลเกษร ผู้เสียหาย ยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 1เป็นเงิน 10,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่โจทก์ร่วมรับแลกเช็คพิพาทจากนายสันติ แล้วนำเช็คดังกล่าวไปฝากผ่านเข้าบัญชีของบริษัทเงินทุนชาติไพบูลย์ จำกัด เพื่อให้เรียกเก็บเงินตามเช็คให้ทันในวันเดียวกัน เนื่องจากเป็นเช็คขีดคร่อมและโจทก์ร่วมเป็นลูกจ้างของบริษัทเงินทุนดังกล่าวโจทก์ร่วมจึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตามกฎหมาย เมื่อขึ้นเงินตามเช็คไม่ได้ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ร่วม โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหายที่จะร้องทุกข์ได้แล้วศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงว่าจำเลยทั้งสองยังไม่ได้ชำระเงินตามเช็คพิพาท จำเลยทั้งสองออกเช็คชำระหนี้โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ย่อมมีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง
ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ปรากฏว่าพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ได้ยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497และเป็นกฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่จำเลย จึงให้ใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 แทน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์