คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1423/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การถอนฟ้องคดีแพ่งและคดีอาญาเป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความ ไม่ใช่กรณีที่จะต้องใช้สิทธิทางศาล ข้อตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้ถอนฟ้องคดีดังกล่าวจึงไม่อาจนำมาฟ้องร้องบังคับได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเคยฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาฐานเบิกความเท็จแล้วได้ตกลงกันถอนฟ้องคดีต่าง ๆ ทุกคดีภายใน 7 วัน แต่จำเลยซึ่งเป็นโจทก์ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1427/2527 และคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1026/2528 ของศาลชั้นต้นผิดสัญญาไม่ยอมถอนฟ้องคดีทั้งสองดังกล่าว ขอให้บังคับจำเลยถอนฟ้องคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1026/2528ระหว่าง นางลุ้ย เหรียญเลิศรัตนา โจทก์ นางผาด แข่งขัน จำเลยและคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1427/2527 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดราชบุรีโจทก์ นางลุ้ย เหรียญเลิศรัตนา โจทก์ร่วม นางผาด แข่งขัน กับพวกจำเลย
ศาลชั้นต้นพิจารณาคำฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ปัญหาว่าโจทก์จะฟ้องขอให้บังคับจำเลยถอนฟ้องคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1026/2528 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1427/2527 ของศาลชั้นต้น ตามสัญญาประนีประนอมยอมความได้หรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยจะถอนฟ้องคดีดังกล่าวได้หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจารณาความไม่ใช่กรณีที่จะต้องใช้สิทธิทางศาล ดังนั้นข้อตกลงตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงไม่อาจนำมาฟ้องร้องบังคับได้
พิพากษายืน

Share