คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2512

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

คำร้องบรรยายว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนในจังหวัดเชียงรายซึ่งผู้ร้องมิได้รับเลือกตั้ง. ได้มีการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายทั้งด้านเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเลือกตั้งและกรรมการเลือกตั้งทุกหน่วย. และบรรยายการกระทำที่มิชอบว่ากรรมการตรวจนับคะแนนไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้อง. โดยนับบัตรที่มีแต่เลขไทยอย่างเดียวของผู้ร้องให้เป็นบัตรเสีย. แต่ของผู้สมัครอื่นนับให้เป็นบัตรดี. ย่อมหมายความว่าได้กระทำดังนี้ทุกหน่วย. แม้จะมิได้บรรยายว่าการนับบัตรชนิดเดียวกันนี้ให้เป็นบัตรดีบัตรเสีย มีจำนวนโดยประมาณเท่าใด. ก็เพราะได้กระทำทุกหน่วยตามที่ผู้ร้องอ้าง. ซึ่งยากที่รู้จำนวนโดยประมาณได้จึงไม่เคลือบคลุม.
คำร้องบรรยายว่า. คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนตามบัญชีในแบบ ผท.18 ชุดที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกัน. การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริง. ทำให้ผลการรวมคะแนนของผู้ร้องผิดพลาด. เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม. เพราะมิได้บรรยายว่า. คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนในบัญชีผท.18 ไม่ตรงกันอย่างไร. การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริงอย่างไร. และทำให้ผลการรวมคะแนนผิดพลาดอย่างไร. ซึ่งอาจผิดพลาดในทางที่ทำให้ผู้ร้องได้คะแนนมากขึ้นหรือน้อยลง. คำร้องที่ไม่แสดงข้อเท็จจริงในทางเดียว. ย่อมเคลือบคลุม. (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 14-15/2512).

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องและขอแก้ไขความว่า เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์2512 ได้มีการเลือกตั้งผู้แทนราษฎรทั่วประเทศ จังหวัดเชียงรายผู้สมัครรับเลือกตั้ง 40 คนรวมทั้งผู้ร้องด้วย ผลการเลือกตั้งมีผู้ได้รับเลือก 7 คน ผู้ร้องไม่ได้รับเลือก การเลือกตั้งดังกล่าวได้มีการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายทั้งด้านเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเเลือกตั้งและกรรมการเลือกตั้งทุกหน่วย รวม 6 ข้อ ขอให้ไต่สวนและมีคำสั่งว่า การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนในจังหวัดเชียงรายเป็นไปโดยมิชอบ แล้วให้มีการเลือกตั้งใหม่เพราะเป็นการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน พ.ศ. 2511 มาตรา 58, 62 ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและผู้ได้รับเลือกตั้งทั้ง 7 คนยื่นคำร้องคัดค้านปฏิเสธข้อหาตามคำร้อง และต่อสู้ว่า คำร้องของผู้ร้องเคลือบคลุม ก่อนวันนัดไต่สวน นายไพบูลย์ แดงสนั่น ผู้ร้องที่ 5 ขอถอนคำร้อง ศาลชั้นต้นอนุญาต วันนัดไต่สวน ผู้ร้องแถลงว่าคงติดใจขอให้ศาลวินิจฉัยคำร้องของผู้ร้องข้อ 1(2) และ (3) เท่านั้น โดยจะอ้างพยานเอกสารและพยานวัตถุ เพื่อให้ศาลตรวจดู และไม่ติดใจสืบพยานบุคคล ศาลชั้นต้น ทำการไต่สวนแล้วทำความเห็นส่งศาลฎีกาว่า คำร้องข้อ 1(2) และ (3) ของผู้ร้องเคลือบคลุม ควรยกคำร้อง คำร้องข้อ 1(2) มีว่า “กรรมการตรวจนับคะแนนไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้อง โดยนับคะแนนเลขดีของผู้ร้องให้เป็นเลขเสีย เช่นบัตรที่มีเลขไทยแต่อย่างเดียวของผู้ร้อง กรรมการนับให้เป็นบัตรเสียแต่ของผู้สมัครหมายเลขอื่นเป็นหมายเลขดี เป็นต้น” คำร้องข้อ 1(3) มีว่า “คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนตามบัญชีในแบบ ผท.18 ชุดที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้งไม่ตรงกัน การนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริง จึงทำให้ผลการรวมคะแนนของผู้ร้องผิดพลาด” มีปัญหาว่า คำร้องทั้ง 2 ข้อดังกล่าวเคลือบคลุมหรือไม่ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำร้องตอนแรกได้อ้างอยู่แล้วว่า การเลือกตั้งผู้แทนราษฎรในจังหวัดเชียงรายซึ่งมีผู้สมัคร40 คน และได้รับเลือกตั้ง 7 คนโดยผู้ร้องมิได้รับเลือกตั้งนั้นได้มีการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายทั้งด้านเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการเลือกตั้งและกรรมการเลือกตั้งทุกหน่วย และได้บรรยายการกระทำที่มิชอบไว้ในคำร้องดังกล่าวแล้ว โดยมีคำขอบังคับให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะเป็นการกระทำที่ผิดต่อพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน พ.ศ. 2511 มาตรา 58 ซึ่งเป็นบทบัญญัติว่าด้วยเรื่องบัตรเลือกตั้งชนิดใดเป็นบัตรเสีย ตามคำร้องข้อ 1(2) บรรยายว่า กรรมการตรวจนับคะแนนไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้อง โดยนับบัตรที่มีแต่เลขไทยอย่างเดียวของผู้ร้องให้เป็นบัตรเสีย แต่ของผู้สมัครคนอื่นนับให้เป็นบัตรดี ซึ่งหมายความว่า ได้กระทำดังนี้ทุกหน่วยเลือกตั้งตามคำร้องตอนแรก แม้จะมิได้บรรยายว่าการนับบัตรชนิดเดียวกันนี้ให้เป็นบัตรดี บัตรเสียมีจำนวนโดยประมาณเท่าใด ก็เพราะได้กระทำทุกหน่วยตามที่ผู้ร้องอ้าง ซึ่งเป็นการยากที่จะรู้จำนวนโดยประมาณได้ ข้อเท็จจริงไม่เหมือนกรณีตามคำสั่งศาลฎีกาที่ 717/2489 คำร้องข้อนี้จึงเพียงพอที่จะถือได้ว่าไม่เคลือบคลุม ส่วนคำร้องข้อ 1(3) ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเคลือบคลุม ไม่ชอบจะรับไว้พิจารณา เพราะมิได้บรรยายว่า คะแนนที่ทางราชการประกาศกับคะแนนในบัญชี ผท.18 ไม่ตรงกันอย่างไร ที่ว่าการนับคะแนนไม่ตรงต่อความจริง ก็มิได้บรรยายว่า ความจริงและไม่จริงอย่างไรที่ว่าทำให้ผลการรวมคะแนนผิดพลาด ก็มิได้บรรยายว่าผิดพลาดอย่างไร และการรวมคะแนนของผู้ร้องผิดพลาดนั้น อาจผิดพลาดในทางที่ทำให้คะแนนของผู้ร้องดีขึ้นมากขึ้นหรือน้อยลงก็ได้ทั้งสองทางคำร้องที่ไม่แสดงข้อเท็จจริงในทางเดียวต้องถือว่าเคลือบคลุม จึงมีคำสั่งให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาตามคำร้องข้อ 1(2)จนเสร็จสิ้น แล้วทำความเห็นส่งสำนวนไปศาลฎีกา ส่วนคำร้องข้อ 1(3)ให้ยก.

Share