คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3903/2535

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องแถวพิพาทของโจทก์ จำเลยฟ้องแย้งว่า โจทก์ปลอมเอกสารเกี่ยวกับห้องแถวพิพาท จำเลยแจ้งความดำเนินคดีแก่โจทก์ โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยโดยตกลงชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยเป็นเงิน 20,200 บาท เมื่อถึงกำหนดโจทก์เพิกเฉย จึงขอให้ศาลบังคับให้ ดังนี้ ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามคำฟ้องของโจทก์และฟ้องแย้งของจำเลยเป็นคนละเรื่องกัน ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมของโจทก์ ชอบที่จะไม่รับฟ้องแย้งของจำเลย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ห้องแถวไม้สองชั้นเลขที่ 130 พร้อมที่ดินโฉนดเลขที่ 7129 เป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์โดยซื้อมาจากนายวสันต์ ศรีบุญมากุล ก่อนโจทก์ซื้อโจทก์แจ้งให้จำเลยซึ่งเช่าห้องแถวทราบแล้ว จำเลยไม่ประสงค์จะเช่าต่อไป หลังจากโจทก์ซื้อแล้วโจทก์มอบให้ทนายความของโจทก์มีหนังสือแจ้งให้จำเลยออกไป แต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้ขับไล่จำเลยและบริวารพร้อมทั้งขนย้ายสิ่งของออกไปและส่งมอบห้องแถวพร้อมตู้วางสินค้าในสภาพเรียบร้อยคืนโจทก์ให้จำเลยชำระค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 2,500 บาท นับแต่วันที่1 กุมภาพันธ์ 2534 เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยและบริวารจะขนย้ายสิ่งของออกไปและส่งมอบห้องแถวคืนโจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของห้องแถวพิพาท และฟ้องแย้งว่า เมื่อเดือนมกราคม 2534 โจทก์ปลอมเอกสารเกี่ยวกับห้องแถวพิพาทจำเลยแจ้งความดำเนินคดีแก่โจทก์ โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยโดยตกลงชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลย 20,200 บาท ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2534 เมื่อถึงกำหนดโจทก์เพิกเฉย ขอให้บังคับโจทก์ชำระเงินแก่จำเลย 20,200 บาท
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การจำเลย ส่วนฟ้องแย้งมีคำสั่งว่าไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ไม่รับฟ้องแย้ง จำเลยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฟ้องแย้ง ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากห้องแถวพิพาทของโจทก์ จำเลยฟ้องแย้งว่า โจทก์ปลอมเอกสารเกี่ยวกับห้องแถวพิพาท จำเลยแจ้งความดำเนินคดีแก่โจทก์ โจทก์ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยโดยตกลงชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยเป็นเงิน 20,200 บาท เมื่อถึงกำหนดโจทก์เพิกเฉย จึงขอให้ศาลบังคับให้ เห็นว่า ข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามคำฟ้องของโจทก์และฟ้องแย้งของจำเลยเป็นคนละเรื่องกัน ฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมของโจทก์ ชอบที่จะไม่รับฟ้องแย้งของจำเลยไว้พิจารณา ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฟ้องแย้งนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
พิพากษายืน

Share