แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาเพียง 49,825 บาท ไม่เกินสองแสนบาทฎีกาของโจทก์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขใหม่จึงมีคำสั่งไม่รับฎีกา
โจทก์เห็นว่า ฎีกาโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ และโจทก์ได้ที่พิพาทมาจากการขายทอดตลาดย่อมได้รับความคุ้มครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1330 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 98 แผ่นที่ 2)
โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยไปทำการเพิกถอน โฉนดที่ดินเลขที่ 1040 ตำบลเมือง อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ต่อเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเลยเฉพาะส่วนที่ออกทับที่ดินของโจทก์ หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 92)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 96)
คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ฟังว่าโจทก์ทราบถึงการที่ที่ดินพิพาทถูกแย่งการครอบครองเกิน 1 ปี โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน โจทก์ฎีกาอ้างว่า สิทธิของโจทก์ยังมีอยู่ก็เป็นการโต้แย้งว่าที่ดินพิพาทไม่ได้ถูกแย่งการครอบครองจึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาของโจทก์ชอบแล้ว ยกคำร้อง