คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินรวมทั้งรายได้ที่ได้มาระหว่างเป็นสามีภริยาโดยมีชอบด้วยกฎหมาย ชั้นไต่สวนเพื่อให้ศาลมีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างพิจารณาได้ความว่าโจทก์กับจำเลยเป็นสามีภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและอยู่ร่วมกันที่โรงแรมและบ้านเช่าอันเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินที่พิพาท ทั้งโรงแรมและบ้านเช่านั้นปลูกอยู่บนที่ดินซึ่งมีชื่อโจทก์ถือกรรมสิทธิ์ ดังนี้ รายได้จากกิจการโรงแรมและบ้านเช่าเป็นประโยชน์แก่โจทก์ในระหว่างพิจารณาที่จะขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองโดยให้นำมาวางต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264
คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น จำเลยฎีกาคัดค้านคำสั่งศาลที่ให้คุ้มครองประโยชน์ของคู่ความในระหว่างพิจารณา เมื่อข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ที่ศาลอาศัยเป็นหลักในการมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงไป ก็เป็นอำนาจของศาลชั้นต้นที่คดีอยู่ในระหว่างพิจารณามีคำสั่งแก้ไขหรือยกเลิกวิธีการนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 262 มิใช่เป็นอำนาจของศาลฎีกา เพราะยังถือไม่ได้ว่าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องขอแบ่งทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างเป็นสามีภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และได้ยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างพิจารณา
จำเลยแถลงคัดค้านว่า โจทก์ไม่มีสิทธิขอแบ่งทรัพย์สิน เรียกค่าเลี้ยงดู หรือขอให้คุ้มครองชั่วคราว
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้จำเลยนำเงินรายได้จากโรงแรมและบ้านเช่าที่พิพาทมาวางศาล
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ชั้นไต่สวนขอคุ้มครองประโยชน์ฟังได้ว่า โจทก์จำเลยเป็นสามีภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์อยู่ร่วมกับจำเลยในโรงแรมและบ้านเช่าที่พิพาททั้งโรงแรมและบ้านเช่าปลูกอยู่บนที่ดินซึ่งมีชื่อโจทก์ถือกรรมสิทธิ์ ส่วนความจริงจะเป็นประการใด เป็นเรื่องโจทก์จำเลยโต้เถียงและอยู่ในระหว่างพิจารณา ชั้นนี้รายได้ต่าง ๆ ในกิจการโรงแรมและบ้านเช่าเป็นประโยชน์ของโจทก์ในระหว่างพิจารณาที่จะขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองให้นำเงินรายได้มาวางต่อศาลได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๖๔
ส่วนที่ว่าความจำเป็นที่โจทก์จะต้องนำเงินไปชำระค่าเช่าซื้อตามที่ศาลมีคำสั่งหมดไป เพราะจำเลยได้ชำระเงินให้ผู้ให้เช่าซื้อแล้ว และสภาพของโรงแรมในปัจจุบันตกต่ำนั้น เป็นข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากศาลชั้นต้นมีคำสั่ง และเป็นข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ที่ศาลอาศัยเป็นหลักในการมีคำสั่ง เป็นอำนาจของศาลที่คดีอยู่ในระหว่างพิจารณาจะมีคำสั่งแก้ไขหรือยกเลิกวิธีการเช่นนั้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๖๒ มิใช่เป็นเรื่องที่จะมาร้องต่อศาลฎีกา เพราะยังถือไม่ได้ว่าว่าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา
พิพากษายืน.

Share