คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จะมีข้อตกลงระหว่างผู้ร้องกับผู้คักค้าน ในการแบ่งปันมรดกกันไว้หมดแล้ว แต่การที่จะจัดการโอนมรดกให้แก่กันตามข้อตกลง ก็ยังจำเป็นจะต้องมีผู้จัดการมรดกเป็นผู้จัดการให้บังเกิดผลเสร็จสิ้นไปตามข้อตกลงนั้น
ในคดีที่ร้องขอต่อศาลให้ตั้งผู้จัดการมรดก ผู้ร้องจะต้องบรรยายในคำร้องถึงรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงและพฤติการณ์อันจำเป็นและสมควรที่จะต้องมีผู้จัดการมรดก ให้ได้ความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 เท่านั้น ข้อตกลงแบ่งทรัพย์ระหว่างผู้ร้องกับผู้คัดค้านมิใช่รายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นที่ศาลจะพึงต้องพิจารณา ผู้ร้องจึงไม่ จำต้องบรรยายถึงข้อตกลงนั้นมาในคำร้อง หรือต้องคัดสำเนาข้อตกลงยื่นต่อศาลพร้อมคำร้อง

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นภรรยานายเสนอ รัศมิทัต โดยชอบด้วยกฎหมายนายเสนอถึงแก่กรรม ได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แก่ผู้ร้อง ฯลฯ ขอให้ศาลตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก
ผู้คัดค้านร้องคัดค้านว่าผู้ร้องไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก ฯลฯ ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นรับคำคัดค้านและสั่งดำเนินคดีมีข้อพิพาท แล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการทรัพย์ของนายเสนอผู้ตาย
ผู้คัดค้านทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การตั้งผู้จัดการมรดกรายนี้ก็เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขข้อขัดข้องในการจัดการหรือแบ่งปันมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๑๓ ( ๒ ) ฉนั้น แม้จะได้มีข้อตกลงระหว่างผู้ร้องกับผู้คัดค้านในการแบ่งปันมรดกกันไว้หมดแล้ว แต่การที่จะจัดการโอนมรดกให้แก่กันตามข้อตกลง ก็ยังจำเป็นจะต้องมีผู้จัดการมรดกเป็นผู้จัดการให้บังเกิดผลเสร็จสิ้นไปตามข้อตกลงนั้น และศาลฎีกาเห็นว่าในการร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก ผู้ร้องจะต้องบรรยายในคำร้องถึงรายละเอียดแห่งข้อเท็จจริงและพฤติการณ์อันจำเป็นและสมควรที่จะต้องมีผู้จัดการมรดกให้ได้ความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๑๓ เท่านั้น ข้อตกลงสัญญาแบ่งมรดกมิใช่รายละเอียดเกี่ยวกับประเด็นที่ศาลจะพึงต้องพิจารณาในการจัดตั้งผู้จัดการมรดก รายนี้แต่อย่างใด ผู้ร้องจึงไม่จำต้องบรรยายถึงข้อตกลงแบ่งมรดกที่ผู้ร้องกับผู้คัดค้านทำไว้ต่อกันมาในคำร้อง หรือต้องคัดสำเนาข้อตกลงยื่นต่อศาลพร้อมคำร้องและเห็นว่า ผู้ร้องสมควรเป็นผู้จัดการมรดก
พิพากษายืน.

Share