คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6514/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งของศาลจังหวัดนนทบุรีที่สั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากศาลจังหวัดนนทบุรีเห็นว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งแม้โจทก์จะอุทธรณ์กล่าวอ้างว่าคดีนี้ควรอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา 9 (1) แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ซึ่งใช้บังคับแล้วในขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ แต่ขณะยื่นฟ้องศาลปกครองกลางยังมิได้เปิดทำการ คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมคือศาลจังหวัดนนทบุรีอันเป็นศาลที่จำเลยทั้งแปดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 4 (1) ดังนี้ ย่อมมีปัญหาว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลจังหวัดนนทบุรีหรือศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ซึ่งเป็นศาลยุติธรรมด้วยกันเท่านั้น จึงเป็นกรณีที่มีปัญหาว่าคดีอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศหรือไม่ อันเป็นกรณีที่จะต้องเสนอปัญหาดังกล่าวให้ประธานศาลฎีกาเป็นผู้วินิจฉัย ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 9 และต่อมาประธานศาลฎีกาได้มีคำวินิจฉัยแล้วว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้น การที่ศาลจังหวัดนนทบุรีมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์และจำหน่ายคดีออกจากสารบบความนั้นชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่ามติที่ประชุมของจำเลยที่ 2 และที่ 4 ถึงที่ 8 เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีคำสั่งให้เพิกถอนมติที่ประชุมของจำเลยที่ 2 และที่ 4 ถึงที่ 8 รวมทั้งให้เพิกถอนคำสั่งนายทะเบียนฉบับลงวันที่ 12 เมษายน 2543 ทุกฉบับ กับมีคำส่งให้จำเลยที่ 1 ดำเนินการรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและเครื่องหมายบริการของโจทก์ทั้งสามคำขอตามคำสั่งนายทะเบียนฉบับลงวันที่ 7 มีนาคม 2543
จำเลยทั้งแปดให้การขอให้ยกฟ้อง
วันนัดชี้สองสถาน ศาลจังหวัดนนทบุรีตรวจสำนวนแล้วเห็นว่า คดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้น การที่ศาลรับคดีนี้ไว้พิจารณาจึงเป็นการผิดระเบียบ ให้เพิกถอนคำสั่งที่รับฟังคดีนี้ไว้และให้จำหน่ายคดีโจทก์เสียจากสารบบความ กับให้โจทก์นำคดีไปฟ้องต่อศาลที่มีอำนาจ ค่าขึ้นศาลให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์ปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า โจทก์อุทธรณ์ในข้อกฎหมายว่า แม้คำฟ้องของโจทก์จะเกี่ยวข้องกับเครื่องหมายการค้า แต่เป็นการฟ้องอันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายของจำเลยทั้งแปดซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งแปดจึงเป็นคดีที่ศาลปกครองมีอำนาจพิจารณาพิพากษาหรือมีคำสั่งตามความในมาตรา 9 (1) แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วในขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ แต่ขณะยื่นฟ้องศาลปกครองยังมิได้เปิดทำการ โจทก์จึงต้องนำคดีนี้มายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นศาลที่จำเลยทั้งแปดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล คำฟ้องของโจทก์ดังกล่าวมิใช่คำฟ้องที่กล่าวอ้างถึงการโต้แย้งสิทธิในเครื่องหมายการค้าหรือขอให้เพิกถอนคำสั่งของนายทะเบียนที่ปฏิบัติตามขั้นตอนดังที่กฎหมายให้อำนาจไว้ และมิใช่คดีที่ฟ้องร้องเกี่ยวกับการไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของนายทะเบียนหรือคำสั่งของคณะกรรมการเครื่องหมายการค้าซึ่งอยู่ในอำนาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศแต่อย่างใด ขอให้ศาลฎีกาพิพากษายกคำสั่งให้จำหน่ายคดีของศาลจังหวัดนนทบุรีและมีคำสั่งให้ศาลจังหวัดนนทบุรีรับฟ้องคดีของโจทก์ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป เห็นว่า คดีนี้โจทก์อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งของศาลจังหวัดนนทบุรีที่สั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากศาลจังหวัดนนทบุรีเห็นว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งแม้โจทก์จะอุทธรณ์กล่าวอ้างว่าคดีนี้ควรอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง ตามมาตรา 9 (1) แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ซึ่งใช้บังคับเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2542 แต่ขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2543 ศาลปกครองกลางยังมิได้เปิดทำการ คดีนี้จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมคือศาลจังหวัดนนทบุรีอันเป็นศาลที่จำเลยทั้งแปดมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 4 (1) ดังนี้ ย่อมมีปัญหาคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลจังหวัดนนทบุรีหรือศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ซึ่งเป็นศาลยุติธรรมด้วยกันเท่านั้น จึงเป็นกรณีที่มีปัญหาให้ต้องวินิจฉัยว่าคดีอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศหรือไม่ อันเป็นกรณีที่จะต้องเสนอปัญหาดังกล่าวให้ประธานศาลฎีกาเป็นผู้วินิจฉัย ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 9 จึงเห็นสมควรเสนอปัญหาให้ประธานศาลฎีกาวินิจฉัยโดยไม่จำต้องย้อนไปให้ศาลจังหวัดนนทบุรีดำเนินการและปรากฏว่าประธานศาลฎีกาได้มีคำวินิจฉัยแล้วว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ตามคำวินิจฉัยของประธานศาลฎีกาที่ ทก. 27/2545 ลงวันที่ 13 กันยายน 2547 ดังนั้น การที่ศาลจังหวัดนนทบุรีมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์และจำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลจังหวัดนนทบุรีนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วยในผล
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share