คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 592/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยฟันโจทก์ร่วมอ้างว่าบันดาลโทสะเพราะโจทก์ร่วมกล่าวหาว่าลักมะพร้าว และด่าว่าจำเลย แต่จำเลยมิได้นำสืบให้เห็นว่าโจทก์ร่วมด่าว่าอย่างไรอันจะเป็นถ้อยคำรุนแรงจนเป็นเหตุให้ถึงกับบันดาลโทสะและจำเลยอ้างว่าที่ใช้มีดฟันโจทก์ร่วมเพราะโจทก์ร่วมจะทำร้ายจำเลยมิใช่จำเลยฟันโจทก์ร่วมเพราะบันดาลโทสะ การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เพราะบันดาลโทสะ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80,33 และริบมีดพร้าของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างการพิจารณา ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 ลงโทษจำคุก 12 ปี ข้อนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 8 ปี ริบมีดพร้าของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ส่วนที่จำเลยอ้างว่าบันดาลโทสะ เพราะโจทก์ร่วมกล่าวหาว่าลักมะพร้าวและด่าว่าจำเลย ฝ่ายโจทก์ร่วมอ้างว่าจำเลยฟันโจทก์ร่วมโดยไม่มีสาเหตุอะไรกันเลย คำเบิกความของโจทก์ร่วมไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยฟันโจทก์ร่วมโดยไม่มีสาเหตุกัน น่าจะมีสาเหตุอย่างจำเลยอ้างที่ว่าโจทก์ร่วมกล่าวหาว่าจำเลยลักมะพร้าวและด่าว่าจำเลย แต่จำเลยมิได้นำสืบให้เห็นว่าโจทก์ร่วมด่าว่าอย่างไร อันจะเป็นถ้อยคำรุนแรงจนเป็นเหตุให้ถึงกับบันดาลโทสะ และประการสำคัญจำเลยอ้างว่าที่ฟันโจทก์ร่วมเพราะโจทก์ร่วมจะทำร้ายจำเลย มิใช่จำเลยฟันโจทก์ร่วมเพราะบันดาลโทสะแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยจึงมิใช่เพราะบันดาลโทสะฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น… โจทก์ร่วมได้รับอันตรายมีบาดแผลไม่รุนแรงพฤติการณ์เช่นนี้ถือไม่ได้ว่าจำเลยเจตนาฆ่าโจทก์ร่วม แต่จำเลยฟันโจทก์ร่วมจนได้รับอันตรายแก่กาย จึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ให้จำคุก 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3.

Share