คำสั่งคำร้องที่ 3139-3140/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินสองแสนบาท จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกา ไม่รับฎีกาจำเลย
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยในประเด็นที่ว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาคดีโดยวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงนอกสำนวน และประเด็น ที่ว่าอำนาจของตัวแทนตามพระราชบัญญัติประกันชีวิตไม่มีอำนาจ เช่นเดียวกับตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เป็นฎีกา ในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้ พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน75,748 บาท (ที่ถูกเป็น 57,748 บาท) ให้โจทก์ที่ 1 และ ชำระเงินจำนวน 43,300 บาท ให้โจทก์ที่ 2 พร้อมด้วยดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 29 กันยายน 2530 จนกว่าจะชำระเสร็จ ดอกเบี้ยสำหรับโจทก์ที่ 1 จนถึงวันฟ้อง ต้องไม่เกิน 7,165 บาท สำหรับโจทก์ที่ 2 ต้องไม่เกิน 5,373 บาท
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา (อันดับ 154)
จำเลยยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 159)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคแรกฎีกาจำเลยล้วนแต่เป็นการโต้เถียงการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยชอบแล้วให้ยกคำร้อง

Share