คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2160/2542

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 บัญญัติบังคับไว้ให้ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ การที่จำเลยยื่นอุทธรณ์โดยไม่ได้นำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์มาวางศาลให้ครบถ้วนพร้อมกับอุทธรณ์ย่อมเป็นการไม่ชอบ จำเลยยื่นอุทธรณ์พร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายกำหนดระยะเวลาที่จะนำเงินค่าธรรมเนียมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 229 มาวางศาล แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องเพราะไม่มีพฤติการณ์พิเศษที่ศาลจะอนุญาต ดังนี้แม้ต่อมาหลังจากครบกำหนดอายุอุทธรณ์ จำเลยจะได้นำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้อง ใช้แทนโจทก์มาวางศาลก็ตาม แต่ก็เป็นเวลาภายหลังที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์แล้ว กรณีเช่นว่านี้ศาลชั้นต้นชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ของจำเลยได้ทันที เพราะไม่ใช่เรื่องการมิได้ชำระหรือวาง ค่าธรรมเนียมศาลโดยถูกต้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ซึ่งศาลจะต้อง สั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วนเสียก่อน ที่จะสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความ

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 19พฤษภาคม 2540 ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 655,460 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 21กรกฎาคม 2537 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์และให้จำเลยที่ 2ร่วมรับผิดชำระเงินจำนวน 455,460 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2537 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ส่วนคำขออื่นให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2540 ภายในระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นได้ขยายเวลายื่นอุทธรณ์ให้ พร้อมกับยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลานำค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์มาวางศาลออกไปอีก 10 วัน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีไม่มีพฤติการณ์พิเศษไม่อาจอนุญาตให้ขยายระยะเวลาได้ ยกคำร้อง และสั่งอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองว่า จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์โดยไม่นำค่าธรรมเนียมซึ่งต้องใช้แทนโจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลพร้อมอุทธรณ์เป็นการไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229จึงไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง คืนค่าขึ้นศาลแก่จำเลยทั้งสอง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมและสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำร้องขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมของจำเลยทั้งสองอ้างว่า จำเลยทั้งสองไม่ทราบว่าจะต้องวางเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนโจทก์นั้น ถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษและเมื่อจำเลยทั้งสองไม่นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งยังต้องใช้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองจึงมิชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองขยายระยะเวลาวางเงินและสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยทั้งสองว่าจำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์มาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 229 บัญญัติบังคับไว้ว่า ผู้อุทธรณ์ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษามาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์ ข้อเท็จจริงจากสำนวนปรากฏว่า จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์โดยไม่ได้นำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์มาวางศาลให้ครบถ้วนพร้อมกับอุทธรณ์ย่อมเป็นการไม่ชอบ แม้จำเลยทั้งสองจะได้ยื่นคำร้องขอขยายกำหนดระยะเวลาที่จะนำเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาวางศาลแต่ศาลก็ได้มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ขยายเพราะเหตุตามคำร้องของทนายจำเลยทั้งสองไม่มีพฤติการณ์พิเศษที่ศาลจะอนุญาตได้แล้วและวันที่ 9 กรกฎาคม 2540 จำเลยทั้งสองจะได้นำเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องใช้แทนโจทก์มาวางศาลก็ตาม แต่การขอวางเงินค่าธรรมเนียมนั้น เป็นเวลาภายหลังที่ศาลสั่งไม่รับอุทธรณ์แล้วดังนั้นศาลชอบที่จะมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองได้ทันที เพราะกรณีไม่นำเงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาวางศาลพร้อมกับอุทธรณ์นี้ ไม่ใช่เรื่องการมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยถูกต้องครบถ้วนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ซึ่งศาลจะต้องสั่งให้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วนเสียก่อนที่จะสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความ ดังที่จำเลยทั้งสองฎีกาไม่ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งสองขยายระยะเวลาวางเงินและสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share