คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5505/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์และจำเลยทั้งสามทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ที่ดินของทั้งสองฝ่ายบางส่วนเป็นทางภารจำยอมโดยยอมให้ตัดฟันต้นไม้ที่ขึ้นกีดขวางทางหรือปรับทางภารจำยอมนี้ได้เพื่อความสะดวกในการใช้ทาง การที่โจทก์ถมดินใหม่สูงกว่าพื้นดินเดิมประมาณ 1 คืบตัดต้นมะม่วงแล้วยังเหลือตอสูงกว่าพื้นดินประมาณ 1 คืบมุงหลังคาสังกะสีระเบียงใหม่และทำหลังคาห้องน้ำใหม่แต่ไม่มีรางน้ำฝนและโจทก์ทำท่อระบายน้ำจากห้องน้ำไหลลงมาทางเดินเหล่านี้เป็นการกระทำที่ขัดขวางและทำให้ไม่สะดวกแก่การใช้ทางภารจำยอมจึงไม่เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความ

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความโดยโจทก์และจำเลยทั้งสามยอมให้ที่ดินของทั้งสองฝ่ายบางส่วนเป็นทางภารจำยอมและยอมให้ตัดฟันต้นไม้ที่ขึ้นกีดขวางทางหรือปรับทางภารจำยอมนี้ได้เพื่อความสะดวกในการใช้ทาง ชั้นบังคับคดีโจทก์และจำเลยทั้งสามโต้เถียงถึงสภาพทางภารจำยอมศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จ่าศาลทำแผนที่สังเขปแสดงสภาพทางภารจำยอมซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างรับรองว่าถูกต้องตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 11 ตุลาคม 2531 และโจทก์แถลงว่า โจทก์จะตัดต้นมะม่วงหลังคาห้องน้ำและลวดขึงเสาเครื่องรับโทรทัศน์ที่ล้ำเข้าไปในทางภารจำยอมและจะปรับทางเดินที่เป็นหลุมหรือเป็นที่ลุ่มให้อยู่ในระดับเดียวกับทางเดินที่เป็นระดับสูงโดยจะนำดินไปถมทางเดินให้อยู่ในสภาพที่เสมอกัน จำเลยแถลงว่า จำเลยยอมให้โจทก์นำดินไปถมให้เสมอกับทางเดินที่อยู่ระดับสูง แต่ไม่ยอมให้โจทก์ถมสูงกว่าระดับเดิมต่อมาคู่ความโต้เถียงกันว่า โจทก์ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ศาลชั้นต้นได้เดินเผชิญสืบทางภารจำยอมตามรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2532 แล้วมีคำสั่งว่าโจทก์ถมดินสูงกว่าที่ดินระดับสูงสุดประมาณ 1 คืบ จึงมีคำสั่งให้โจทก์ขนดินที่ถมออกให้เสมอกับที่ดินระดับสูงที่มีอยู่เดิมสำหรับต้นมะม่วงที่โจทก์ตัดไว้ปรากฏว่าสูงกว่าพื้นดินประมาณ1 คืบ เดินไม่สะดวก ให้โจทก์ตัดตอมะม่วงให้เสมอกับระดับทางเดินส่วนหลังคาห้องน้ำและหลังคาระเบียงที่โจทก์ทำใหม่ น้ำฝนไหลจากชายคาลงทางเดิน ให้โจทก์ทำรางน้ำหรือแก้ไขโดยวิธีอื่นเพื่อป้องกันน้ำตกจากชายคา ตามรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่20 กรกฎาคม 2532 โจทก์ยื่นคำร้องว่า โจทก์ได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมศาลไม่มีอำนาจที่จะกำหนดวิธีการขึ้นใหม่หรือมีคำสั่งผิดไปจากคำพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ หากจำเลยเสียหายจากการที่โจทก์ใช้สิทธิในทางภารจำยอมก็ชอบที่จะดำเนินคดีแก่โจทก์เป็นคดีใหม่ ขอให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าวและให้ถือตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
ศาลชั้นต้นยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสัญญาประนีประนอมยอมความของศาลชั้นต้น ระบุเรื่องการทำทางภารจำยอมว่า โจทก์ยอมตัดต้นไม้ที่ขึ้นกีดขวางทางและปรับทางภารจำยอมตามที่ตกลงกันเพื่อสะดวกแก่การใช้ และโจทก์ยังแถลงต่อศาลชั้นต้นตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 11 ตุลาคม 2531 ว่า โจทก์จะตัดต้นมะม่วง หลังคาห้องน้ำและลวดขึงเสาเครื่องรับโทรทัศน์ภายในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2531และเมื่อศาลชั้นต้นได้เดินเผชิญสืบทางภารจำยอม ปรากฏว่าโจทก์ถมดินใหม่สูงกว่าพื้นเดิมประมาณ 1 คืบเศษ โจทก์ตัดต้นมะม่วงแต่ยังเหลือตอสูงกว่าพื้นดินประมาณ 1 คืบเศษ มุงหลังคาสังกะสีระเบียงใหม่ และทำหลังคาห้องน้ำใหม่ แต่ไม่มีรางน้ำฝนและโจทก์ทำท่อระบายน้ำจากห้องน้ำไหลลงมาทางเดิน การกระทำของโจทก์ดังกล่าวเป็นการขัดขวางและทำให้ไม่สะดวกแก่การใช้ทางภารจำยอมจึงไม่เป็นไปตามสัญญาประนีประนอมยอมความประกอบกับคำแถลงของโจทก์ต่อศาลชั้นต้นตามรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 11 ตุลาคม 2511เป็นคำรับของโจทก์ที่จะปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2532 จึงชอบแล้ว เพราะเป็นคำสั่งให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมโดยถูกต้อง มิใช่เป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบดังที่โจทก์ฎีกา
พิพากษายืน

Share