แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้จำเลยจะได้ย้ายภูมิลำเนาจากจังหวัดสงขลาไปอยู่ที่กรุงเทพมหานคร แต่จำเลยไม่ได้แจ้งให้โจทก์ทราบ และโทรศัพท์ตามฟ้องยังคงติดตั้งอยู่ที่บ้านของจำเลยตามสัญญาเช่าโทรศัพท์ โจทก์จึงชอบที่จะบอกเลิกสัญญาเช่าโทรศัพท์แก่จำเลย ณ ภูมิลำเนาตามสัญญาเช่าโทรศัพท์ได้ จำเลยมิได้กล่าวคัดค้านโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าวินิจฉัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายข้อใดตอนใดผิดถูกอย่างใดเป็นฎีกาไม่ชัดแจ้งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเช่าค่าบำรุงรักษาและค่าใช้โทรศัพท์ซึ่งติดตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 4/1ถนนเทพสงเคราะห์ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาได้รับใบแจ้งหนี้และหนังสือเลิกสัญญาจากโจทก์ โจทก์ไม่บอกเลิกสัญญาตามกำหนดเวลาตามระเบียบของโจทก์แต่ปล่อยให้มีการใช้โทรศัพท์โจทก์จึงมีส่วนประมาท เครื่องโทรศัพท์โจทก์ได้รับคืนไปแล้วขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 60,868.80 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2529ซึ่งเป็นวันเลิกสัญญาเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ แต่ดอกเบี้ยคำนวณถึงวันฟ้องต้องไม่เกิน 8,369 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เมื่อปี 2513 จำเลยทำสัญญาเช่าโทรศัพท์หมายเลข 244277 กับโจทก์ ติดตั้ง ณ บ้านเลขที่ 4/1ถนนเทพสงเคราะห์ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาจำเลยค้างชำระค่าเช่าและค่าโทรศัพท์ตามฟ้อง แล้ววินิจฉัยว่าในปัญหาว่าโจทก์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าโทรศัพท์แก่จำเลยโดยชอบแล้วหรือไม่ เห็นว่า แม้จำเลยจะได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ที่กรุงเทพมหานครแต่จำเลยไม่ได้แจ้งให้โจทก์ทราบและโทรศัพท์ตามฟ้องยังคงติดตั้งอยู่ที่บ้านของจำเลยตามสัญญาเช่าโทรศัพท์ โจทก์จึงชอบที่จะบอกเลิกสัญญาเช่าโทรศัพท์แก่จำเลย ณ ภูมิลำเนาตามสัญญาเช่าโทรศัพท์ได้ที่จำเลยฎีกามาในปัญหานี้ด้วยว่า โจทก์มีระเบียบว่าด้วยการงดให้บริการแก่ผู้เช่าโทรศัพท์ที่ค้างชำระค่าบริการตามสำเนาระเบียบองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยว่าด้วยการงดให้บริการแก่ผู้เช่าโทรศัพท์ที่ค้างชำระค่าบริการ พ.ศ. 2529 นั้น เห็นว่าจำเลยได้แต่ฎีกาว่ามีระเบียบดังกล่าว แต่มิได้กล่าวคัดค้านโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าวินิจฉัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายข้อใดตอนใดผิดถูกอย่างไร จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน