แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเพียงแต่ทำสัญญาเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันกับธนาคารสาขาของโจทก์ จึงไม่ใช่เรื่องทำสัญญาบัญชีเดินสะพัดต่อกันตาม ป.พ.พ.มาตรา 856 และถือไม่ได้ว่าเป็นการค้าอย่างอื่นในทำนองเช่นว่านั้น ตามข้อตกลงในคำขอเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน เอกสารหมาย จ.5 ข้อ 13, 14 ที่ว่าถ้าธนาคารจ่ายเงินตามเช็คให้เกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีของผู้ฝากไป ผู้ฝากยอมใช้เงินส่วนที่ธนาคารได้จ่ายเงินเกินบัญชีนั้นให้ธนาคารพร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราสูงสุดเท่าที่กฎหมายอนุญาต นับแต่วันที่เบิกเกินจนถึงวันที่ชำระหนี้เงินเบิกเกินคืน ก็มิได้มีข้อตกลงให้เรียกดอกเบี้ยทบต้นได้ กับทั้งไม่ใช่เรื่องกู้ยืมเงินตาม ป.พ.พ. มาตรา654 แต่เป็นเรื่องของธนาคารโจทก์ได้จ่ายเงินตามคำสั่งของจำเลยผู้ออกเช็คเกินกว่าจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีซึ่งมาตรา 991 มิได้บังคับโดยเด็ดขาดมิให้ธนาคารจ่ายเงินเกินบัญชีของผู้เคยค้าและตามเงื่อนไขคำขอเปิดบัญชีเงินฝากกระแสรายวันดังกล่าวก็ให้ธนาคารโจทก์มีอำนาจจ่ายเงินตามเช็คให้จำเลยเกินจำนวนเงินที่มีอยู่ในบัญชีได้ โจทก์จึงไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยทบต้นจากจำเลย ส่วนโจทก์มีสิทธิคิดดอกเบี้ยจากจำเลยในอัตราเท่าใดนั้น จำเลยไม่ได้ฎีกาในเรื่องอัตราดอกเบี้ยกลับรับในฎีกาว่าขอเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จำเลยจึงต้องรับผิดใช้ดอกเบี้ยแก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่ 17 เมษายน 2529 ซึ่งเป็นวันผิดนัดโดยไม่ทบต้น