แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาถึงที่สุดให้โจทก์และจำเลยแบ่งที่ดินพิพาทด้วยการประมูลราคากันเอง หากตกลงประมูลราคากันเองไม่ได้ให้ขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวแล้วเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วน การตกลงประมูลราคากันเองได้นั้น หมายความว่าโจทก์และจำเลยประมูลราคาที่ดินกันแล้วผู้ประมูลได้ ได้ปฏิบัติตามที่ประมูลได้นั้นจนเสร็จสิ้นหากผู้ประมูลได้ไม่ปฏิบัติตามที่ได้ประมูลได้นั้นจนเสร็จก็ต้องถือว่าเป็นกรณีที่โจทก์และจำเลยตกลงประมูลราคากันเองไม่ได้ดังนั้นเมื่อจำเลยซึ่งเป็นผู้ประมูลได้ไม่นำเงินมาชำระตามที่ประมูลได้โจทก์จึงต้องบังคับคดีโดยการนำที่ดินพิพาทออกขายทอดตลาดแล้วเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วนต่อไป โจทก์ไม่มีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินอื่นของจำเลยเพื่อบังคับคดีนี้แต่อย่างใด
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์และจำเลยแบ่งที่ดินเลขที่ 3237 ตำบลแก้วฟ้า อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยการประมูลราคากันเอง หากตกลงประมูลราคากันเองไม่ได้ ให้ขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวแล้วเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วน คดีถึงที่สุดแล้ว ต่อมาโจทก์จำเลยประมูลที่ดินดังกล่าวกันเอง ผลปรากฏว่าจำเลยเป็นผู้ประมูล เป็นเงิน 6,359,500 บาทโดยโจทก์และจำเลยมีส่วนได้ในที่ดินดังกล่าว 1 ส่วน และ 2 ส่วนตามลำดับ ปรากฏว่าจำเลยไม่นำเงินมาชำระเลย โจทก์จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินโฉนดเลขที่ 3554, 3556, 3581 ตำบลเตาเหล้า(เต่าเล่า) อำเภอเสนากลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเลขที่ 17962 ตำบลแก้วฟ้า (เต่าเล่า) อำเภอบางซ้าย (เสนากลาง)จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระส่วนได้ของโจทก์และค่าธรรมเนียมการขายที่ดินต่อไป จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งปล่อยทรัพย์ที่ยึดดังกล่าว เพราะโจทก์ไม่มีอำนาจนำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินของจำเลยเนื่องจากจำเลยมิใช่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่โจทก์จะบังคับเอาจากทรัพย์สินของจำเลยได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลย ค่าคำร้องให้เป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาถึงที่สุดให้โจทก์และจำเลยแบ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 3237 ตำบลแก้วฟ้า อำเภอบางซ้ายจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยการประมูลราคากันเอง หากตกลงประมูลราคากันเองไม่ได้ ให้ขายทอดตลาดที่ดินดังกล่าวแล้วเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วน การบังคับคดีนี้จึงต้องดำเนินการบังคับคดีให้ถูกต้องตามขั้นตอนของคำพิพากษานั้น โดยต้องแบ่งที่ดินดังกล่าวด้วยการประมูลราคากันเองระหว่างโจทก์กับจำเลยก่อน ต่อเมื่อตกลงประมูลราคากันเองไม่ได้แล้วจึงบังคับคดีด้วยการนำที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วนต่อไป การบังคับคดีในการแบ่งที่ดินดังกล่าวระหว่างโจทก์และจำเลยด้วยวิธีการตกลงประมูลราคากันเองได้นั้น หมายความว่าโจทก์และจำเลยประมูลราคาที่ดินกันแล้วผู้ประมูลได้ ได้ปฏิบัติตามที่ประมูลได้นั้นจนเสร็จสิ้น ซึ่งเมื่อโจทก์และจำเลยได้แบ่งที่ดินดังกล่าวกันเช่นนี้ได้แล้ว ก็ไม่จำต้องดำเนินการบังคับคดีด้วยวิธีการนำที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วนอันเป็นขั้นตอนต่อไปของการบังคับคดีอีกแต่หากโจทก์และจำเลยตกลงประมูลราคาที่ดินกันเอง แล้วผู้ประมูลได้ไม่ปฏิบัติตามที่ได้ประมูลได้นั้นจนเสร็จ ก็ต้องถือว่าเป็นกรณีที่โจทก์และจำเลยตกลงประมูลราคากันเองไม่ได้ และต้องดำเนินการบังคับคดีนี้ด้วยวิธีการนำที่ดินดังกล่าวออกขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วนต่อไป ดังนั้น เมื่อจำเลยเป็นผู้ประมูลได้ในการประมูลราคากันเองระหว่างโจทก์และจำเลยไม่นำเงินมาชำระตามที่ประมูลได้ โจทก์จึงต้องบังคับคดีนี้ด้วยการนำที่ดินโฉนดเลขที่ 3237ตำบลแก้วฟ้า อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกขายทอดตลาดแล้วเอาเงินมาแบ่งกันตามส่วนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้นต่อไปโจทก์ไม่มีสิทธินำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินอื่นของจำเลยเพื่อบังคับคดีนี้แต่อย่างใด
พิพากษากลับ ให้ปล่อยที่ดินโฉนดเลขที่ 3554, 3556, 3581ตำบลเตาเหล้า (เต่าเล่า) อำเภอเสนากลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและที่ดินโฉนดเลขที่ 17962 ตำบลแก้วฟ้า (เต่าเล่า) อำเภอบางซ้าย(เสนากลาง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คืนจำเลย