แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
เมื่อคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องในคดีก่อนยังไม่ถึงที่สุด ก็ต้องถือว่าคดีก่อนยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาการที่โจทก์นำมูลหนี้รายเดียวกันมาฟ้องจำเลยเป็นคดีอีกจึงเป็นการฟ้องซ้อนกับคดีก่อน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173(1) แม้ต่อมาคดีก่อนถึงที่สุดโดยศาลอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องก็หาทำให้ฟ้องคดีหลังซึ่งเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมาแต่ต้นกลายเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายขึ้นมาใหม่
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7ในฐานะทายาทโดยธรรมผู้รับมรดกของนายกรี สกุลเดช ผู้ตาย และจำเลยที่ 8 ถึงที่ 20 ในฐานะผู้ค้ำประกันร่วมกันชำระหนี้โจทก์ตามสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีจำนวน 6,917,061.81 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแทนนายกรี จำเลยที่ 16 ถึงที่ 20 ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่1 ตุลาคม 2529 ขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดข้อกฎหมายเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 24 ว่า โจทก์เคยฟ้องจำเลยที่ 16 ถึงที่ 20 ในเรื่องเดียวกัน ตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่178/2528 ของศาลชั้นต้นและคดีกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์มาฟ้องคดีนี้อีก จึงเป็นฟ้องซ้อนและฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 178/2528 ของศาลชั้นต้น
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 14 ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 178/2528 ของศาลชั้นต้น เป็นจำเลยคนเดียวกับจำเลยที่ 8 ถึงที่ 20 ในคดีนี้ตามลำดับ และคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ แต่โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวกันนำคดีนี้ซึ่งเป็นเรื่องเดียวกันมาฟ้องจำเลยที่ 8 ถึงที่ 20 อีกต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173(1) จึงยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 8 ถึงที่ 20
โจทก์อุทธรณ์
ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 18 ถึงแก่กรรม นางอาน ผิวละมุลทายาทของจำเลยที่ 18 ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลอุทธรณ์ภาค 1 อนุญาต
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 8 ถึงที่ 20 เป็นฟ้องซ้อนกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 178/2528 ของศาลชั้นต้นหรือไม่ ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติแล้วว่า ก่อนฟ้องคดีนี้ โจทก์เคยฟ้องจำเลยที่ 8ถึงที่ 20 ให้ชำระหนี้รายเดียวกันนี้มาแล้วในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่178/2528 ของศาลชั้นต้น แต่โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีก่อนเสีย ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง จำเลยที่ 16 ถึงที่ 20คดีนี้ซึ่งเป็นจำเลยในคดีก่อน อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง ขณะที่คดีก่อนอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์ได้ฟ้องจำเลยที่ 8 ถึงที่ 20 ให้ชำระหนี้รายเดียวกันเป็นคดีนี้ ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อคำสั่งของศาลที่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องในคดีก่อนยังไม่ถึงที่สุด ก็ต้องถือว่าคดีก่อนยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณา ซึ่งต่อไปศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาอาจไม่อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องก็ได้ การที่โจทก์นำมูลหนี้รายเดียวกันมาฟ้องจำเลยที่ 8 ถึงที่ 20 เป็นคดีอีก จึงเป็นการฟ้องซ้อนกับคดีก่อนซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173(1)แม้ต่อมาศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาจะอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องคดีก่อนถึงที่สุดก็ตาม ก็หาทำให้ฟ้องคดีนี้ซึ่งเป็นฟ้องที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมาแต่ต้นกลายเป็นฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมายขึ้นมาไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 8 ถึงที่ 20 จึงชอบแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน