แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พนักงานเดินหมายบันทึกการส่งหมายว่าไม่พบทนายจำเลย พบแต่คนในบ้านสอบถามได้ความว่าทนายจำเลยไปธุระที่กรุงเทพมหานครไม่ทราบว่าจะกลับมาเมื่อใด จำเลยมิได้นำสืบหักล้างว่าบันทึกการส่งหมายดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตามบันทึกดังกล่าวแสดงว่าทนายจำเลยยังอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 48 การที่ทนายจำเลยยังอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 48 ก็ดี การที่ทนายจำเลยไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ที่บ้านซึ่งเป็นสำนักงานแห่งใหม่ก็ดี ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าทนายจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเลขที่ 48 ด้วย ฉะนั้น การปิดหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 ถือว่าจำเลยทราบวันนัดแล้ว การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นจึงชอบด้วยกฎหมาย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 400,000 บาทแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ทำคำพิพากษาเสร็จแล้วส่งมาให้ศาลชั้นต้นอ่านให้คู่ความฟัง ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันที่ 23 กรกฎาคม 2533 เวลา 13.30 นาฬิกาโดยแจ้งวันนัดให้ทนายความของคู่ความทราบ สำหรับทนายความจำเลยแจ้งให้ทราบโดยวิธีปิดหมาย ถึงวันนัดไม่มีคู่ความฝ่ายใดมาศาลศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยยื่นคำร้องขอยื่นฎีกาโดยอ้างว่า จำเลยเพิ่งจะทราบการอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2533เนื่องจากเดิมทนายความจำเลยมีสำนักงานอยู่บ้านเลขที่ 48ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร แต่ได้ย้ายสำนักงานไปอยู่บ้านเลขที่ 1022/5 ข ตำบลมหาชัยอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่ต้นปี 2533พนักงานเดินหมายของศาลได้นำหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปปิดที่สำนักงานเดิม การปิดหมายนั้นจึงถือไม่ได้ว่าได้ปิดหมายณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของทนายความจำเลย
โจทก์คัดค้านว่า ทนายความจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ที่พนักงานเดินหมายของศาลปิดหมาย ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องจำเลยแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พนักงานเดินหมายบันทึกการส่งหมายว่าไม่พบทนายจำเลย พบแต่คนในบ้านสอบถามได้ความว่าทนายจำเลยไปธุระที่กรุงเทพมหานคร ไม่ทราบว่าจะกลับมาเมื่อใด จำเลยมิได้นำสืบหักล้างว่าบันทึกการส่งหมายดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตามบันทึกดังกล่าวแสดงว่าทนายจำเลยยังอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 48 การที่ทนายจำเลยยังอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 48 ก็ดี การที่ทนายจำเลยไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ที่บ้านซึ่งเป็นสำนักงานแห่งใหม่ก็ดี ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าทนายจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 48 ด้วย ฉะนั้นการปิดหมายนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จึงชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 79 แล้ว ถือได้ว่าจำเลยทราบวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยชอบแล้ว การอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ของศาลชั้นต้นจึงชอบด้วยกฎหมาย
พิพากษายืน