แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยมิใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น และไม่เป็นสาระ แก่คดี จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยไม่ต้องห้ามตามกฎหมายแต่อย่างใด โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ตามบัญชีเดินสะพัด ศาลพิพากษาตามยอมให้จำเลยชำระเงินจำนวน 89,083.41 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18.5 ต่อปี นับถัดจากวันที่ 31 ตุลาคม 2534 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ แต่จำเลยไม่ชำระ โจทก์จึงขอหมายบังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดิน ของจำเลย ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ที่พิพาทที่โจทก์นำยึดเป็นที่ดิน ที่จำเลยจดทะเบียนจำนองเป็นประกันเงินกู้ไว้กับผู้ร้อง จำเลยค้างชำระต้นเงินพร้อมด้วยดอกเบี้ยกับค่าเบี้ยประกันภัยอาคาร ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ จึงขอรับชำระหนี้ก่อนโจทก์และเจ้าหนี้รายอื่นโดยให้ขายทอดตลาดทรัพย์จำนองแบบปลอดจำนอง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้จำนองก่อนเจ้าหนี้รายอื่น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 56)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 57)
คำสั่ง
ปัญหาว่าผู้ร้องได้มอบอำนาจให้นายเชิดศักดิ์ประจญศึกยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ก่อนในฐานะเจ้าหนี้ผู้รับจำนองแทนผู้ร้องหรือไม่ เป็นข้อที่จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคแรก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ