คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5435/2547

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 91 วรรคสอง บัญญัติให้คำขอรับชำระหนี้ต้องทำตามแบบพิมพ์โดยมีบัญชีแสดงรายละเอียดแห่งหนี้และข้อความระบุถึงหลักฐานประกอบหนี้ เมื่อจำนวนเงินตามคำขอรับชำระหนี้ทั้งในด้านหน้าคำขอรับชำระหนี้ข้อ 4 และด้านหลังตามรายการในบัญชีรายละเอียดแห่งหนี้สินมีจำนวนตรงกัน แสดงถึงเจตนาของผู้ร้องว่าประสงค์จะขอรับชำระหนี้ตามจำนวนที่ระบุไว้ในคำขอรับชำระหนี้นั้น โดยไม่มีข้อสงสัยว่าจำนวนเงินดังกล่าวเกิดจากการพิมพ์ผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน ทั้งจำนวนเงินที่ผู้ร้องยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มจากเดิมจำนวน 3,854,472.56 บาท เป็น 8,419,095.03 บาท ก็แตกต่างกันมาก มิใช่การแก้ไขเพียงเล็กน้อย หากแต่เป็นการเพิ่มจำนวนเงินที่ขอรับชำระหนี้ซึ่งอยู่ในบังคับที่จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้เพิ่มเติมภายในกำหนด 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 91 วรรคหนึ่ง ด้วย
การที่กฎหมายล้มละลายกำหนดเวลาเพื่อให้บรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ดังกล่าวก็โดยมีวัตถุประสงค์ให้ทราบถึงจำนวนเจ้าหนี้ที่ขอรับชำระหนี้กับจำนวนเงินที่เจ้าหนี้แต่ละรายที่ขอรับชำระหนี้โดยแน่ชัด เพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายดำเนินการโดยรวดเร็วต่อไป ไม่ว่าในเรื่องการประนอมหนี้ที่ลูกหนี้จะทำความตกลงในเรื่องหนี้สิน รวมทั้งการนับคะแนนเสียงในการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกหรือการประชุมเจ้าหนี้ครั้งอื่น กระบวนพิจารณาคดีล้มละลายเหล่านี้จะดำเนินการต่อไปโดยรวดเร็วได้ ต่อเมื่อได้ทราบจำนวนที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ทั้งสิ้น มิใช่ว่าเมื่อผู้ร้องได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาตามกฎหมายแล้ว ก็จะสามารถเพิ่มจำนวนหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ในภายหลังได้ก่อนที่ผู้คัดค้านจะเสนอความเห็นในเรื่องหนี้สินต่อศาล ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นย่อมจะมีผลกระทบต่อกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายที่ต้องดำเนินการโดยรวดเร็วดังเช่นที่กล่าวนั้น ทั้งจะทำให้กระบวนพิจารณาคดีล้มละลายเต็มไปด้วยความยุ่งยาก ดังนั้น แม้ผู้ร้องจะได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาตาม พ.ร.บ.ล้มละลายฯ มาตรา 91 วรรคหนึ่งแล้ว กรณีผู้ร้องประสงค์ที่จะขอรับชำระหนี้เพิ่มเติมหรือแก้ไขคำขอรับชำระหนี้เช่นนี้ก็จะต้องกระทำภายในเวลาตามกฎหมายดังกล่าวด้วย เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนเงินที่ขอรับชำระหนี้ล่วงเลยกำหนดเวลาตามกฎหมาย จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังกล่าว

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เด็ดขาด ผู้คัดค้านประกาศโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดในราชกิจจานุเบกษาวันที่ 11 ธันวาคม 2544 และในหนังสือพิมพ์แนวหน้าวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2544 ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้ตามคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ ธ.7251/2542 ของศาลแพ่ง จำนวน 3,854,472.56 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ ต่อมาวันที่ 2 พฤษภาคม 2545 ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อผู้คัดค้านว่า ยอดหนี้ที่ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้จำนวน 3,854,472.56 บาท ผู้ร้องพิมพ์ผิดพลาดยอดหนี้จึงต่ำกว่าภาระหนี้ตามคำพิพากษาที่ถูกต้องไปเป็นจำนวน 4,564,622.47 บาท จึงขออนุญาตแก้ไขจำนวนทุนทรัพย์ที่ขอรับชำระหนี้จากเดิม 3,854,472.56 บาท เป็น 8,419,095.03 บาท วันที่ 3 พฤษภาคม 2545 ผู้คัดค้านมีคำสั่งให้ยกคำร้องและได้แจ้งคำสั่งดังกล่าวให้ผู้ร้องทราบด้วยวิธีปิดหมายเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2545
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า การที่ผู้ร้องขอแก้ไขคำขอรับชำระหนี้เพิ่มเติมอีกจำนวน 4,564,622.47 บาท สาเหตุเกิดจากการพิมพ์ผิดพลาดเล็กน้อยเพื่อให้ถูกต้องตามข้อเท็จจริงในมูลหนี้ตามคำพิพากษาที่ผู้ร้องนำมาฟ้องขอให้จำเลยล้มละลาย เมื่อไม่มีเจ้าหนี้รายใดโต้แย้ง เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ขอให้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของผู้คัดค้านและอนุญาตให้ผู้ร้องแก้ไขจำนวนทุนทรัพย์ที่ยื่นขอรับชำระหนี้จากเดิม 3,854,472.56 บาท เป็น 8,419,095.03 บาท
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนเงินที่ขอรับชำระหนี้เมื่อพ้นกำหนดเวลายื่นคำขอรับชำระหนี้ และกรณีมิใช่การแก้ไขข้อที่พิมพ์ผิดพลาดหรือผิดหลงเล็กน้อย คำสั่งของผู้คัดค้านที่ยกคำร้องของผู้ร้องชอบแล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีล้มละลายพิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า คำสั่งของผู้คัดค้านที่ไม่อนุญาตให้ผู้ร้องแก้ไขจำนวนเงินที่ผู้ร้องยื่นคำขอรับชำระหนี้เมื่อพ้นกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้แล้วชอบหรือไม่ ผู้ร้องฎีกาว่า ผู้ร้องยื่นคำร้องขอแก้ไขจำนวนทุนทรัพย์ที่ขอรับชำระหนี้แม้จะพ้นกำหนดเวลาขอรับชำระหนี้แล้ว แต่ได้ขอแก้ไขก่อนที่ผู้คัดค้านจะทำความเห็นเสนอต่อศาลเพื่อให้ถูกต้องตามคำพิพากษาและตามความเป็นจริงแห่งหนี้เพราะเหตุที่ผู้ร้องพิมพ์จำนวนทุนทรัพย์ผิดพลาดไป จึงเป็นการแก้ไขเล็กน้อยนั้น เห็นว่า การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 91 วรรคสอง บัญญัติให้คำขอรับชำระหนี้ต้องทำตามแบบพิมพ์โดยมีบัญชีแสดงรายละเอียดแห่งหนี้สินและข้อความระบุถึงหลักฐานประกอบหนี้ ตามคำขอรับชำระหนี้ (ล.29) ของผู้ร้อง ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2544 เอกสารหมาย ร.6 ที่ยื่นต่อผู้คัดค้านระบุไว้ในข้อ 4 ว่า ข้าพเจ้าขอรับชำระหนี้ฐานเป็นเจ้าหนี้ไม่มีประกันเป็นจำนวนเงิน 3,854,472.56 บาท และในด้านหลังซึ่งเป็นบัญชีรายละเอียดแห่งหนี้สินและทรัพย์สินอันเป็นหลักประกัน ผู้ร้องได้ระบุในรายการว่า หนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่งหมายเลขแดงที่ ธ.7251 (ที่ถูก ธ.7251/2542) จำนวนเงิน 3,702,595.06 บาท ค่าฤชาธรรมเนียมจำนวนเงิน 151,877.50 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,854,472.56 บาท โดยมีสำเนาหนังสือรับรองบริษัทผู้ร้อง หนังสือมอบอำนาจและหนังสือมอบอำนาจช่วง สำเนาคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ธ.7215/2544 (ที่ถูก ธ.7251/2542) และสำเนาบัญชีค่าฤชาธรรมเนียมเป็นหลักฐานประกอบหนี้ เมื่อจำนวนเงินตามคำขอรับชำระหนี้ที่ผู้ร้องระบุทั้งในด้านหน้าคำขอรับชำระหนี้ ข้อ 4 และด้านหลังตามรายการในบัญชีรายละเอียดแห่งหนี้สินฯ มีจำนวนตรงกัน ประกอบกับรายการในบัญชีรายละเอียดแห่งหนี้สินฯ ดังกล่าวยังแสดงรายละเอียดหนี้ตามคำพิพากษากับค่าฤชาธรรมเนียมแต่ละจำนวนแยกออกจากกัน เมื่อรวมกันแล้วมีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินที่ผู้ร้องขอรับชำระหนี้แสดงถึงเจตนาของผู้ร้องชัดเจนว่าประสงค์จะขอรับชำระหนี้ตามจำนวนเงินที่ระบุมาในคำขอรับชำระหนี้นั้นโดยไม่มีข้อสงสัยว่าจำนวนเงินดังกล่าวเกิดจากการพิมพ์ผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน ทั้งจำนวนเงินที่ผู้ร้องยื่นคำขอแก้ไขเพิ่มจากที่ขอรับชำระหนี้ไว้เดิมจำนวน 3,854,472.56 บาท เป็น 8,419,095.03 บาท ก็แตกต่างกันมาก เห็นได้ชัดว่ามิใช่เป็นการแก้ไขเพียงเล็กน้อย หากแต่เป็นการเพิ่มจำนวนเงินที่ขอรับชำระหนี้ซึ่งอยู่ในบังคับที่จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้เพิ่มเติมภายในกำหนดเวลา 2 เดือน นับแต่วันโฆษณาคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 91 วรรคหนึ่งด้วย การที่กฎหมายล้มละลายกำหนดเวลาเพื่อให้บรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลายยื่นคำขอรับชำระหนี้ไว้ดังกล่าวก็โดยมีวัตถุประสงค์ให้ทราบถึงจำนวนเจ้าหนี้ที่ขอรับชำระหนี้กับจำนวนเงินที่เจ้าหนี้แต่ละรายที่ขอรับชำระหนี้โดยแน่ชัด เพื่อให้การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายดำเนินการโดยรวดเร็วต่อไปไม่ว่าในเรื่องการประนอมหนี้ที่ลูกหนี้จะทำความตกลงในเรื่องหนี้สินดังกล่าว รวมทั้งการนับคะแนนเสียงในการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกหรือการประชุมเจ้าหนี้ครั้งอื่น กระบวนพิจารณาคดีล้มละลายเหล่านี้จะดำเนินการต่อไปโดยเร็วได้ต่อเมื่อได้ทราบจำนวนเงินที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ทั้งสิ้น มิใช่ว่าเมื่อผู้ร้องได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาตามกฎหมายแล้วก็จะสามารถขอเพิ่มจำนวนหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ในภายหลังได้ก่อนที่ผู้คัดค้านจะเสนอความเห็นในเรื่องหนี้สินต่อศาลดังที่ผู้ร้องฎีกา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นย่อมจะมีผลกระทบต่อกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายที่ต้องดำเนินการโดยรวดเร็วดังเช่นที่กล่าวนั้น ทั้งจะทำให้กระบวนพิจารณาคดีล้มละลายเต็มไปด้วยความยุ่งยาก ดังนั้น แม้ผู้ร้องจะได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 91 วรรคหนึ่ง แล้ว กรณีผู้ร้องประสงค์ที่จะขอรับชำระหนี้เพิ่มเติมหรือแก้ไขคำขอรับชำระหนี้เช่นนี้ก็จะต้องกระทำภายในกำหนดเวลาตามกฎหมายดังกล่าวด้วย เมื่อผู้ร้องยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนเงินที่ขอรับชำระหนี้ล่วงเลยกำหนดเวลาตามกฎหมาย จึงเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายดังกล่าว ที่ผู้คัดค้านมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องและศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษายืนต้องตามกันมาตามคำสั่งของผู้คัดค้านนั้นชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share