คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3805/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

กว่าที่โจทก์จะเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงและเกียรติคุณเป็นที่รู้จักและยอมรับแก่บุคคลทั่วไปได้ โจทก์ต้องสร้างคุณงามความดีเป็นเวลานาน การที่จำเลยไขข่าวแพร่หลายใส่ความโจทก์ในหนังสือพิมพ์รายวันว่าภรรยาโจทก์กำลังหาทนายความทำเรื่องขอหย่าขาดจากโจทก์ เพราะโจทก์มีความสนิทชิดชอบกับหญิงอื่น ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนความจริง ย่อมทำให้ผู้ที่รู้จักโจทก์และได้อ่านข่าวดังกล่าวคิดว่าโจทก์มีความประพฤติไปในทางไม่ดี กระทำผิดศีลธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ครอบครัวของโจทก์เกิดความร้าวฉานก่อให้เกิดความเกลียดชังและดูหมิ่นโจทก์ ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบข่าวนี้แล้วย่อมขาดความเคารพเชื่อถือ เป็นผลเสียต่อหน้าที่การงานและความเจริญก้าวหน้ากับทำให้เสื่อมเสียแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณที่เคยมีอยู่ โจทก์ย่อมได้รับความเสียหาย จำเลยต้องรับผิดในมูลละเมิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไขข่าวแพร่หลายฝ่าฝืนต่อความจริงเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณ ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าเสียหายจำนวน 1,500,000 บาท พร้อมกับดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้อง
จำเลยให้การว่า ข้อความที่ไขข่าวตามฟ้องมิได้เป็นข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริง ไม่ทำให้โจทก์เสียหายแก่ชื่อเสียงเกียรติคุณหรือทางทำมาหาได้หรือทางเจริญของโจทก์แต่ประการใด ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จำนวน20,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีคำขอนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษายืน
ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 200,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีคำขอนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ว่า โจทก์เป็นผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในการงานสูง มีชื่อเสียงและเกียรติคุณเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปในฐานะที่โจทก์เป็นผู้อำนวยการองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทยจึงมีผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวนมาก จำเลยไขข่าวเกี่ยวกับตัวโจทก์ให้แพร่หลายทางหนังสือพิมพ์รายวันดาวสยามอันฝ่าฝืนต่อความจริงว่า”ข่าวใหญ่ของสังคมเมืองหลวงวันนี้น่าจะได้แก่ ข่าวจิรภาบุตรตรีพลโทจวน วรรณรัตน์ กับ เจ้าโฉมชบากำลังหาทนายความทำเรื่องขอหย่าขาดกับประมุท สูตะบุตร ผู้สามีซึ่งมีความสนิทชิดชอบไม่คลายต่อสุภาพสตรีชื่อสุรีย์ พันธ์เจริญ ขณะเดียวกันมาดามจิรภาตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะสมรสใหม่กับนักธุรกิจหนุ่มแห่งนครลอสแองเจลิศ ชื่อ เชาวน์ บูรณสมบัติ ผู้เพิ่งถูกภริยาชื่อกัณหาประกาศหย่าแยกทางเดิน” ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีเพียงว่า โจทก์เสียหายหรือไม่เพียงใด เห็นว่า กว่าที่โจทก์จะเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงและเกียรติคุณเป็นที่รู้จักและยอมรับแก่บุคคลทั่วไปได้ โจทก์ต้องสร้างคุณงามความดีเป็นเวลานาน การที่จำเลยไขข่าวแพร่หลายใส่ความโจทก์ในหนังสือพิมพ์รายวันดังที่กล่าวแล้ว ย่อมทำให้ผู้ที่รู้จักโจทก์และได้อ่านข่าวดังกล่าวคิดว่าโจทก์มีความประพฤติไปในทางไม่ดี กระทำผิดศีลธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ครอบครัวของโจทก์เกิดความร้าวฉานก่อให้เกิดความเกลียดชังและดูหมิ่นโจทก์ ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบข่าวนี้แล้วย่อมขาดความเคารพเชื่อถือ เป็นผลเสียต่อหน้าที่การงานและความเจริญก้าวหน้ากับทำให้เสื่อมเสียแก่ชื่อเสียงและเกียรติคุณที่เคยมีอยู่จึงเห็นได้ว่าโจทก์ย่อมได้รับความเสียหาย สำหรับค่าเสียหายจะมีมากน้อยเพียงใดนั้นเมื่อพิเคราะห์ถึงความเสียหายที่โจทก์ได้รับดังที่กล่าวมาแล้ว ประกอบกับพฤติการณ์ที่จำเลยไขข่าวแพร่หลายให้ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์รายวันซึ่งพิมพ์ออกจำหน่ายทั่วประเทศโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดแก่บุคคลอื่นเช่นนี้ เห็นว่าที่ศาลล่างทั้งสองกำหนดให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์เป็นเงิน200,000 บาท นับว่าเหมาะสมแก่รูปคดีแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share