คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2886/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยเข้าไปล้อมรั้วในที่ดินพิพาทเพื่อถือการครอบครองและรบกวนการครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์ร่วมโดยปกติสุขตั้งแต่เวลากลางวันความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา362ได้เกิดขึ้นและสำเร็จลงแล้วส่วนการครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุกไม่เป็นความผิดต่อเนื่องติดต่อเกิดขึ้นตลอดเวลาอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา365

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2537 ถึงวันที่26 กุมภาพันธ์ 2537 เวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน จำเลยบุกรุกเข้าไปในที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของนางสาวสายสมร อาจหาญ ผู้เสียหายด้วยการใช้ไม้ไผ่ล้อมเป็นรั้วในที่ดินดังกล่าวเพื่อถือการครอบครองที่ดินเนื้อที่ประมาณ100 ตารางวา อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้เสียหายโดยปกติสุข ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362, 365
ระหว่างพิจารณา นางสาวสายสมร อาจหาญ ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362, 365 ลงโทษจำคุก 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 ด้วยหรือไม่ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222 ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 1ฟังว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ร่วม เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์2537 เวลาประมาณ 13 นาฬิกา จำเลยเข้าไปล้อมรั้วในที่ดินพิพาทเพื่อถือการครอบครองและรบกวนการครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์ร่วมโดยปกติสุข และครอบครองที่ดินพิพาทมาก่อน เห็นว่า ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362 มีความเป็น 2 ตอน ตอนหนึ่ง คือเข้าไปเพื่อถือการครอบครอง อีกตอนหนึ่งคือเข้าไปทำการรบกวนการครอบครองของเขาจำเลยเข้าไปและครอบครองที่ดินพิพาทของโจทก์ร่วมตลอดเวลาต่อ ๆ มานั้น การกระทำอันหนึ่งคือการเข้าไป แม้จะล้อมรั้วและครอบครองตลอดมาก็เป็นการกระทำอีกขั้นหนึ่ง เมื่อการเข้าไปยุติเสร็จสิ้นลงตั้งแต่แรกแล้ว แม้จะมีการครอบครองล้อมรั้วอันเป็นการรบกวนการครอบครองอยู่ต่อ ๆ มา การกระทำในส่วนหลังนี้ก็เป็นการกระทำผิดขึ้นตลอดมาโดยลำพังแต่ประการเดียวไม่ได้เมื่อการเข้าไปอันเป็นการกระทำส่วนแรกยุติเสร็จสิ้นลงแล้วการกระทำในส่วนหลังต่อ ๆ มา ก็ไม่เป็นความผิดต่อเนื่องติดต่อเกิดขึ้นตลอดเวลาได้ ดังนั้นการที่จำเลยเข้าไปล้อมรั้วในล้อมรั้วในที่ดินพิพาทของโจทก์ร่วม ความผิดฐานบุกรุกได้เกิดขึ้นและสำเร็จแล้ว ส่วนการครอบครองที่ดินพิพาทต่อมาเป็นเพียงผลของการบุกรุกการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดต่อเนื่องไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365
อนึ่ง ตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่ร้ายแรงนัก โจทก์ร่วมและจำเลยเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน การให้โอกาสจำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีจะเป็นประโยชน์แก่จำเลยและสังคมมากกว่า ประกอบกับไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนกรณีมีเหตุสมควรรอการลงโทษจำคุกให้จำเลย แต่เพื่อให้จำเลยหลาบจำเห็นควรลงโทษปรับจำเลยอีกสถานหนึ่ง
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ปรับจำเลย 1,500 บาท อีกสถานหนึ่งโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share