คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องและผู้คัดค้านที่ขอเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายผู้คัดค้านอุทธรณ์ผู้ร้องไม่ได้อุทธรณ์คดีของผู้ร้องจึงถึงที่สุดผู้ร้องจะฎีกาขอให้ศาลฎีกาตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้คัดค้านไม่ได้เพราะเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาในศาลอุทธรณ์ภาค2ซึ่งต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายจ้าย แซ่เตี๋ย ผู้ตาย ซึ่งเป็นบิดาผู้ร้อง
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นภรรยาผู้ตาย ผู้ร้องยักยอกทรัพย์มรดกเกินกว่าส่วนที่ผู้ร้องจะได้ ผู้ร้องจึงถูกกำจัดไม่ให้รับมรดกของนายจ้าย และไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดกขอให้มีคำสั่งตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายจ้ายแต่เพียงผู้เดียว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องและผู้คัดค้าน
ผู้คัดค้าน อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ตั้งนางถนอมจิตรพวงสมบัติวนิช ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายจ้าย แซ่เตี๋ยผู้ตาย โดยให้มีสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฎีกาของผู้ร้องแม้จะอ้างว่าผู้คัดค้านมีพฤติการณ์ที่ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดกเพราะมีเจตนาจะไม่แบ่งปันทรัพย์มรดกให้ผู้ร้อง จะทำให้มีคดีฟ้องเรียกทรัพย์จากผู้จัดการมรดกอีก แต่มิได้ฎีกาว่าผู้คัดค้านไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก เพียงแต่ขอให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้คัดค้านด้วยเท่านั้น ซึ่งปรากฎว่าเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องและผู้คัดค้านล้วนรู้ผู้อ้างมิได้อุทธรณ์ ผู้คัดค้านอุทธรณ์ฝ่ายเดียวคดีของผู้ร้องจึงถึงที่สุด ผู้ร้องจะฎีกาขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกอีกหาได้ไม่ เพราะเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลอุทธรณ์ภาค 2 ซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายก ฎีกา ของ ผู้ร้อง

Share