แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องโจทก์เป็นการฟ้องขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินพิพาทจากจำเลย มิใช่ขอแบ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทจากจำเลยโดยการครอบครองปรปักษ์ โจทก์จึงไม่ต้องบรรยายฟ้องว่าโจทก์ได้ทำประโยชน์ในที่ดินพิพาทที่ขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมจากจำเลยตั้งแต่เมื่อใด ทั้งปรากฏว่าจำเลยได้ให้การต่อสู้ได้ถูกต้องครบถ้วน มิได้หลงข้อต่อสู้แต่ประการใด ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
คดีนี้ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ.มาตรา 248 วรรคหนึ่ง การที่จำเลยฎีกาอ้างว่า จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทตั้งแต่ที่ซื้อเมื่อปี 2511 และจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2526 จึงต้องเริ่มนับอายุความครอบครองปรปักษ์ตั้งแต่ปีที่จำเลยซื้อมา เพราะจำเลยเจตนาครอบครองปรปักษ์นับแต่นั้นเป็นต้นมา และโดยที่ผู้ขายมีเจตนาสละที่ดินส่วนที่ขายให้จำเลย จึงเป็นการกล่าวอ้างที่ต้องใช้ดุลพินิจในการรับฟังพยานโดยอาศัยข้อเท็จจริงเพื่อการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายมีผลอย่างเดียวกับการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง