คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3109/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนังสือรับรองจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนของจำเลยระบุว่าจำเลยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่34/5ซอยสุวิทย์2ถนนเพชรเกษมแขวงหนองค้างพลูเขตหนองแขม กรุงเทพมหานครเมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงานของจำเลยหรือแจ้งย้ายที่อยู่ใหม่แต่อย่างใดจึงต้องถือว่าจำเลยมีภูมิลำเนาตามหนังสือรับรองจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนของจำเลยดังนั้นการที่เจ้าพนักงานศาลได้ส่งคำบังคับและหมายบังคับคดีให้แก่จำเลยณสถานที่ซึ่งได้จดทะเบียนไว้ตามหนังสือรับรองการจดทะเบียนดังกล่าวโดยวิธีปิดคำบังคับและปิดหมายบังคับคดีไว้ตามคำสั่งของศาลชั้นต้นแม้สถานที่นั้นจะเป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่ก็ตามก็ถือได้ว่ามีการส่งคำบังคับและหมายบังคับคดีให้แก่จำเลยโดยชอบแล้ว จำเลยฎีกาว่าในการส่งคำบังคับหมายบังคับคดีและประกาศต่างๆให้จำเลยเจ้าหนักงานบังคับคดีมิได้ประกาศหนังสือพิมพ์แต่อย่างใดจึงเป็นการบังคับคดีโดยมิชอบด้วยกฎหมายเพราะไม่ได้ใช้วิธีการโดยสมควรพอที่จะให้จำเลยทราบได้นั้นจำเลยไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำร้องจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาที่ไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา249วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสามร่วมชำระหนี้ตามสัญญาบัญชีเดินสะพัดและสัญญาค้ำประกัน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 6,926,211.56 บาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมจำเลยทั้งสามไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์ขอให้บังคับคดีโดยนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 2 ซึ่งจดทะเบียนจำนองเป็นประกันไว้แก่โจทก์ เพื่อบังคับจำนองขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษา
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3ไม่เคยได้รับหมายเรียก สำเนาคำฟ้อง คำบังคับ และหมายบังคับคดีเนื่องจากโจทก์มิได้ส่งไปยังภูมิลำเนาของจำเลยที่ 2 และที่ 3จึงเป็นการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการบังคับคดีที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 79
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 และที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามหนังสือรับรองจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนของจำเลยที่ 2 เอกสารหมาย จ.2 ได้ระบุว่าจำเลยที่ 2 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 34/5 ซอยสุวิทย์ 2 ถนนเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลูเขตหนองแขม กรุงเทพหานคร นับตั้งแต่ยื่นฟ้องโจทก์ได้นำส่งคำคู่ความให้จำเลยที่ 2 ตามที่อยู่ของจำเลยที่ 2 ดังกล่าวตลอดมาจนกระทั่งศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีแล้ว โจทก์ก็ได้นำส่งคำบังคับและหมายบังคับคดีให้จำเลยที่ 2 ตามที่อยู่ที่ระบุไว้ในเอกสารหมาย จ.2 โดยศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ปิดคำบังคับและหมายบังคับคดีได้ด้วย เมื่อไม่ปรากฎว่าจำเลยที่ 2 ได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงที่ตั้งสำนักงานของจำเลยที่ 2 หรือแจ้งย้ายที่อยู่ใหม่แต่อย่างใด จึงต้องถือว่าจำเลยที่ 2 มีภูมิลำเนาตามเอกสารหมาย จ.2ดังนั้นการที่เจ้าพนักงานศาลได้ส่งคดีบังคับและหมายบังคับคดีให้แก่จำเลยที่ 2 ณ สถานที่ซึ่งได้จดทะเบียนไว้ตามเอกสารหมาย จ.2 โดยวิธีปิดคำบังคับและปิดหมายบังคับคดีไว้ตามคำสั่งของศาลชั้นต้น แม้สถานที่นั้นจะเป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่ก็ตาม ก็ถือได้ว่ามีการส่งคำบังคับและหมายบังคับคดีให้แก่จำเลยที่ 2 โดยชอบแล้ว ที่จำเลยที่ 2ฎีกาข้อต่อมาเป็นใจความว่า ในการส่งคำบังคับ หมายบังคับคดีและประกาศต่าง ๆ ให้จำเลยที่ 2 เจ้าพนักงานบังคับคดีมิได้ประกาศหนังสือพิมพ์แต่อย่างใดจึงเป็นการบังคับคดีโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ได้ใช้วิธีการโดยสมควรพอที่จะให้จำเลยที่ 2 ทราบได้นั้น เห็นว่า ฎีกาข้อนี้ จำเลยที่ 2 ไม่ได้กล่าวอ้างไว้ในคำร้อง จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาที่ไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง
พิพากษายืน

Share