คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1128/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อายุความฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในกรณีอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยนั้น ให้นับแต่วันถือว่าได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 182 ที่แก้ไขแล้ว แม้จับจำเลยได้มาแล้ว ศาลจะอ่านคำพิพากษานั้นให้ฟังอีก ก็หาทำให้จำเลยมีสิทธิฎีกาไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง จำเลยรับสารภาพ ฟังว่าจำเลยลักทรัพย์ของนายวิรัช สุวรรณรุจิ ราคา ๓,๒๐๐ บาทในที่จอดรถไฟ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๒๙๔ จำคุก ๒ ปี ลดมาตรา ๕๙ กึ่งหนึ่ง จำคุก ๑ ปี รอการลงโทษไว้ ๕ ปี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แก้ให้จำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ แต่ในการนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ไม่ได้ตัวจำเลยมาฟังตามนัด จนต้องออกหมายจับ พ้นระยะ ๑ เดือน ก็ยังไม่ได้ตัว ศาลอ่านคำพิพากษาไปลับหลัง จำเลยในวันที่ ๓๑ ต.ค.๙๙ และถือว่าจำเลยได้ฟังคำพิพากษานับแต่วันนี้ ต่อมา ๙ ก.ค.๒๕๐๐ จับจำเลยได้และศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยฟังอีก จำเลยยื่นฎีกา ๓๑ ก.ค.๒๕๐๐ ศาลชั้นต้นรับฎีกาข้อกฎหมายมา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลง ๓๑ ต.ค. ๙๙ นั้น ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วไม่ได้ตัวจำเลยมาตามนัด จึงออกหมายจับจนพ้นระยะ ๑ เดือน ก็ยังไม่ได้ตัวมา จึงอ่านคำพิพากษาให้โจทก์ฟังลับหลังจำเลยและให้ถือว่าจำเลยได้ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้วแต่ ๓๑ ต.ค.๙๙ ตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๑๘๒ แก้ไข (ฉบับที่ ๖ ) ๒๔๙๙ มาตรา ๑๒ จำเลยมายื่นฎีกาเมื่อ ๓๑ ก.ค. ๒๕๐๐ เกิน ๑ เดือน ขาดอายุความฎีกาแล้ว

Share