คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2557/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การกู้ยืมเงินมิได้กำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะจึงมีอายุความ10ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา164เดิม(มาตรา193/30)และตามมาตรา169เดิม(มาตรา193/32)บัญญัติว่าอายุความให้เริ่มนับแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไปเมื่อตามสัญญาข้อ4จำเลยที่1จะต้องชำระดอกเบี้ยให้โจทก์เดือนแรกภายในวันที่4มกราคม2524การที่จำเลยที่1ไม่ชำระดอกเบี้ยให้โจทก์เลยจึงเป็นการผิดสัญญาซึ่งสัญญาข้อ6ระบุว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินต้นและดอกเบี้ยได้ถือได้ว่าระยะเวลาซึ่งโจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้นับแต่วันที่4มกราคม2524ซึ่งนับถึงวันฟ้องไม่เกิน10ปีคดีโจทก์จึงขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 กู้และรับเงินไปจากโจทก์ 30,000 บาทจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน ครบกำหนดแล้วจำเลยที่ 1 ไม่ชำระต้นเงิน แต่มาผ่อนผันและชำระดอกเบี้ยให้โจทก์บ้าง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระต้นเงินและดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม จำเลยทั้งสองไม่เคยชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้มีจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่งโจทก์ฎีกาได้เฉพาะแต่ปัญหาข้อกฎหมายจึงต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ได้กู้เงินโจทก์เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2523 จำนวน 30,000 บาท กำหนดชำระดอกเบี้ยเดือนละครั้ง และกำหนดชำระเงินคืนภายในวันที่ 4 ธันวาคม 2524จำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันตั้งแต่จำเลยที่ 1 กู้เงินไปจำเลยที่ 1 ไม่เคยชำระดอกเบี้ยให้โจทก์เลย จนกระทั่งโจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 14 มีนาคม 2534 ปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่า การกู้ยืมเงินมิได้กำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 เดิม (มาตรา 193/30 ที่ตรวจชำระใหม่)มาตรา 169 เดิมและตามมาตรา (193/12 ที่ตรวจชำระใหม่) บัญญัติว่า”อายุความให้เริ่มนับแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป”จำเลยที่ 1 จะต้องชำระดอกเบี้ยให้โจทก์เดือนแรกภายในวันที่4 มกราคม 2524 ตามสัญญาข้อ 4 การที่จำเลยที่ 1 ไม่ชำระดอกเบี้ยให้โจทก์เลย จึงเป็นการผิดสัญญาซึ่งสัญญาข้อ 6 ระบุว่าโจทก์ฟ้องเรียกเงินต้นและดอกเบี้ยได้ ถือได้ว่าระยะเวลาซึ่งโจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้นับแต่วันที่ 4 มกราคม 2524ซึ่งนับถึงวันฟ้องวันที่ 14 มีนาคม 2534 เกิน 10 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ มิใช่เริ่มนับแต่วันครบกำหนดให้ชำระเงินตามคำบอกกล่าวตามฎีกาของโจทก์
พิพากษายืน

Share