คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3836/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

จำเลยที่3รับประกันภัยรถยนต์ไว้จากห้างหุ้นส่วนจำกัดน.ห้างฯดังกล่าวได้ให้จำเลยที่2เช่าซื้อรถนั้นไปในขณะเกิดเหตุห้างฯมิได้เป็นนายจ้างของจำเลยที่1ที่จำเลยที่1ทำละเมิดต่อโจทก์ห้างฯหาต้องร่วมกับจำเลยที่1รับผิดในผลแห่งละเมิดนั้นไม่จำเลยที่3ผู้รับประกันภัยไว้กับห้างฯในลักษณะประกันภัยค้ำจุนจึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดเช่นเดียวกัน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ที่ 2 เป็นเจ้าของผู้ครอบครองรถยนต์คันที่ได้เอาประกันภัยไว้กับโจทก์ที่ 1 เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2520 จำเลยที่ 1 ลูกจ้างปฏิบัติงานในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ได้ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 2 ซึ่งเอาประกันภัยไว้กับจำเลยที่ 3 ในประเภทรับผิดชดใช้ความเสียหายโดยสิ้นเชิง โดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์ที่ 2 ในเวลาเดียวกันลูกจ้างปฏิบัติงานในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 4ขับรถยนต์ซึ่งเอาประกันภัยไว้กับจำเลยที่ 5 ประเภทรับผิดชดใช้ความเสียหายสิ้นเชิงโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์ที่ 2 ซ้ำอีก ทำให้รถยนต์ของโจทก์ที่ 2พลิกคว่ำ รถยนต์และข้าวสารที่บรรทุกมากับอุปกรณ์ประจำรถโจทก์ที่ 2 เสียหายโจทก์ที่ 2 ขาดประโยชน์ในการใช้รถยนต์ระหว่างซ่อม และรถยนต์ของโจทก์ที่ 2เสื่อมราคาลงรวมเป็นค่าเสียหายทั้งสิ้น 131,497 บาท ส่วนโจทก์ที่ 1 เสียค่าซ่อมรถยนต์จำนวน 53,207 บาทไปแล้ว ขอให้บังคับจำเลยทั้งห้าร่วมกันชำระค่าเสียหายกับดอกเบี้ยแก่โจทก์ทั้งสอง จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จำเลยที่ 2 ให้การว่า เหตุเกิดเพราะความประมาทของคนขับรถยนต์โจทก์ที่ 2ค่าเสียหายไม่มากเท่าที่ฟ้อง จำเลยที่ 3 ให้การว่าจำเลยที่ 2 ไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยไว้กับจำเลยที่ 3 เหตุเกิดเพราะความประมาทของคนขับรถยนต์โจทก์ที่ 2 ค่าเสียหายไม่มากเท่าที่ฟ้อง จำเลยที่ 4 ที่ 5 ให้การว่า เหตุเกิดเพราะความประมาทของคนขับรถยนต์โจทก์ที่ 2 และจำเลยที่ 1 ค่าเสียหายไม่มากเท่าที่ฟ้อง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันชำระเงินให้โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 22,140 บาทพร้อมดอกเบี้ย และร่วมกันชำระเงินให้โจทก์ที่ 2เป็นเงิน 34,908 บาทพร้อมดอกเบี้ย ให้จำเลยที่ 4 ที่ 5 ร่วมกันชำระเงินให้โจทก์ที่ 1เป็นเงิน 14,760 บาท พร้อมดอกเบี้ย และร่วมกันชำระเงินให้โจทก์ที่ 2 เป็นเงิน23,272 บาทพร้อมดอกเบี้ย ยกฟ้องจำเลยที่ 3 โจทก์ทั้งสอง จำเลยที่ 4 ที่ 5 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันชำระเงินให้โจทก์ที่ 1 เป็นเงิน 36,900 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ให้ร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ที่ 2 เป็นเงิน 54,240 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2520 จนกว่าจะชำระเสร็จ ยกฟ้องจำเลยที่ 4 ที่ 5 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น โจทก์ทั้งสองฎีกา ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า รถยนต์ของจำเลยที่ 4 มิได้ชนรถยนต์ของโจทก์ที่ 2ค่าซ่อมรถยนต์ของโจทก์ที่ 2 เป็นเงิน 53,207 บาทตามที่ฟ้อง จำเลยที่ 3 รับประกันภัยรถยนต์คันที่จำเลยที่ 1 ขับไว้จากห้างหุ้นส่วนจำกัดนครปฐมยนตรกาญจน์ซึ่งห้างฯ ดังกล่าวได้ให้จำเลยที่ 2 เช่าซื้อไปในขณะเกิดเหตุและวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ห้างฯ มิได้เป็นนายจ้างของจำเลยที่ 1 ที่จำเลยที่ 1 ทำละเมิดต่อโจทก์ ห้างฯหาต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดในผลแห่งละเมิดนั้นไม่ จำเลยที่ 3 ผู้รับประกันภัยไว้กับห้างฯ ในลักษณะประกันภัยค้ำจุน จึงไม่ต้องรับผิดในผลแห่งละเมิดเช่นเดียวกัน พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ร่วมกันใช้ต้นเงินแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน53,207 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามอัตราและเวลาที่ศาลอุทธรณ์กำหนด นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share