คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2311/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเพียงว่าไม่ริบอาวุธปืนลูกโม่พร้อมด้วยกระสุนปืน5นัดกับปลอกกระสุนปืน1ปลอกของนายช.ไม่ได้แก้บทแก้โทษที่ลงแก่จำเลยเป็นการแก้ไขเล็กน้อยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218.

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอ ให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 295, 339, 340 ตรี, 371 ประกาศ ของ คณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลง วันที่ 21 พฤศจิกายน2514 ข้อ 14, 15 พระราชบัญญัติ แก้ไข เพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 13 พระราชบัญญัติ อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ คำสั่ง ของ คณะปฏิรูป การปกครอง แผ่นดินฉบับที่ 44 ลง วันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3, 6, 7 ริบ ของกลาง
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา295 จำคุก 2 เดือน และ มี ความผิด ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ คำสั่ง ของ คณะปฏิรูป การปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ลง วันที่ 21 ตุลาคม 2519 ข้อ 3, 6, 7 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ข้อหา ฐาน มี อาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืนไว้ ใน ครอบครอง โดย มิได้ รับอนุญาต จำคุก 1 ปี ข้อหา ฐาน พา อาวุธปืนติดตัว ไป ใน เมือง หมู่บ้าน และ ทาง สาธารณะ โดย ไม่ ได้ รับ อนุญาตให้ ลงโทษ ตาม พระราชบัญญัติ อาวุธปืนฯ ซึ่ง เป็น บทหนัก จำคุก 6 เดือนรวมเป็น โทษ จำคุก 1 ปี 8 เดือน ของกลาง ตาม บัญชี ทรัพย์ ของกลางคดีอาญา ตาม เอกสาร หมาย จ.2 คือ อาวุธปืน ลูกซองพก พร้อม กระสุน 1 นัดซึ่ง เป็น ของ จำเลย อาวุธปืน ลูกโม่ พร้อม กระสุน 5 นัด ปลอก กระสุนปืน 1 ปลอก ซึ่ง เป็น ของ นาย ชำนาญ ศิริมงคลรัตน์ ได้ ใช้ ยิง จำเลยจึง เป็น ของ ที่ ได้ ใช้ ใน การ กระทำ ผิด ให้ ริบ สายสร้อย นาก 1เส้น พระเลี่ยม ทองคำ 2 องค์ และ เรือยนต์ ชนิด 2 ตอน 1 ลำ เครื่องยนต์ติดเรือ ยี่ห้อ โตโยต้า 1 เครื่อง ให้ คืน เจ้าของ ข้อหา อื่นๆ นอกจากนี้ ให้ ยก
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา แก้ เป็น ว่า ไม่ ริบ อาวุธปืน ลูกโม่ พก พร้อมด้วยกระสุนปืน 5 นัด กับ ปลอก กระสุนปืน 1 ปลอก ของ นาย ชำนาญ ศิริมงคลรัตน์ นอกจาก ที่ แก้ ให้ คง เป็น ไป ตาม คำพิพากษา ศาลชั้นต้น
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย แล้ว เห็นว่า คดีนี้ ศาลอุทธรณ์ พิพากษา แก้คำพิพากษา ศาลชั้นต้น เฉพาะ เรื่อง การ ริบ อาวุธปืน และ เครื่องกระสุนปืน ของ นาย ชำนาญ ศิริมงคลรัตน์ เป็น ว่า ไม่ ริบ อาวุธปืน และเครื่อง กระสุนปืน ดังกล่าว ไม่ ได้ แก้ บท แก้ โทษ ที่ ลง แก่ จำเลยจึง เป็น การ แก้ไข เล็กน้อย จำเลย ฎีกา ใน ข้อเท็จจริง ไม่ ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ที่ จำเลย ฎีกา ว่าศาลอุทธรณ์ ฟัง ข้อเท็จจริง ลงโทษ จำเลย ขัด กับ ข้อเท็จจริง ที่ศาลชั้นต้น รับ ฟัง มา ก็ ดี และ ที่ ฎีกา ขอ ให้ รอ การ ลงโทษ ก็ ดีเป็น การ ฎีกา ดุลพินิจ ใน การ รับ ฟัง พยานหลักฐาน และ ดุลพินิจ ใน การลงโทษ ของ ศาล ซึ่ง เป็น ปัญหา ข้อเท็จจริง จึง ต้องห้าม ตาม บทกฎหมายข้างต้น ศาลฎีกา ไม่ รับ วินิจฉัย ที่ จำเลย ฎีกา ว่า อาวุธปืน และเครื่อง กระสุนปืน ของ นาย ชำนาญ ศิริมงคลรัตน์ เป็น ทรัพย์สิน ที่ใช้ ใน การ กระทำ ผิด แม้ โจทก์ ไม่ ประสงค์ ให้ ริบ ศาล ก็ มี อำนาจริบ ได้ นั้น ก็ เห็น ว่า ข้อกฎหมาย ดังกล่าว ไม่ เป็น สาระ แก่ คดีอันควร ได้ รับ การ วินิจฉัย ศาลฎีกา จึง ไม่ รับ วินิจฉัย ให้เช่นเดียว กัน
พิพากษา ยก ฎีกา จำเลย.

Share