คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 301-303/2470

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กฎหมายใหม่ทับกฎหมายเก่า “กะทง”

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเปน ๓ สำนวนตาม ม.๑๗๗ พ.ร.บ.สมาคม พ.ศ.๒๔๕๗ ม.๓๒ ว่า ค.เปนกำนันแล ท.เปนสารวัดได้สมคบกันกระทำการให้ราษฎรสาบาลเข้าเปนสมาชิกอั้งยี่ในสมาคมอันมิได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ในระยะเวลาติดกันเปน ๓ คราว แต่ให้ลงโทษเรียงกะทง
จำเลยให้การปฏิเสธว่าการกระทำพิธีนั้นไม่ได้ปกปิดวิธีการ ความประสงค์ของการสาบาลก็เพื่อจะไม่ให้พวกสมาชิกเบียดเบียนซึ่งกันแลกันแลรักษาความปรกติสุขซึ่งเปนประโยชน์ทางราชการ
ศาลอุทธรณ์ตัดสินว่า จำเลยมีผิดตามบท ๑๗๗ ให้จำคุก ค. ๒ ปี ท.แล ล.คนละ ๑ ปี ส่วนข้อที่โจทย์ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. สมาคมด้วยนั้นเห็นว่าการกระทำของจำเลยเปนการผิดกฎหมายหลายบท จึงให้ลงโทษจำเลยตามบทที่หนัก
ศาลฎีกาตัดสินว่า ที่ศาลอุทธรณ์ตัดสินลงลงโทษจำเลยตามบท ๑๗๗ แลกำหนดโทษจำเลยมานั้นชอบแล้ว แต่โจทย์ขอให้ลงโทษจำเลยตามพ.ร.บ.สมาคมปี พ.ศ.๒๔๕๗ ด้วยแลศาลอุทธรณ์ยอมชี้ขาดให้นั้น เห็นว่ากฎหมายฉบับนี้ได้มีกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๓๖๗ ซึ่งออกเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๘ ได้ออกทับเสียแล้ว ความผิดของจำเลยได้ทำขึ้นใน พ.ศ.๒๔๖๙ จะอ้างกฎหมายเก่านั้นมาใช้ไม่ได้ จึงให้ตัดความข้อที่ศาลอุทธรณ์อ้างนี้ออกเสีย

Share