คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7241/2552

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำว่า “ผลิต” ที่ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 บัญญัติ ให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุด้วยนั้น ต้องหมายถึงการกระทำอันมีลักษณะที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม ในทำนองเดียวกับการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ข้อเท็จจริงคดีนี้ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนจำนวนเพียง 80 เม็ด ใส่หลอดกาแฟ ซึ่งเป็นเพียงวัตถุห่อหุ้มโดยไม่มีการกระทำใด ๆ แก่สภาพของเมทแอมเฟตามีนนั้นและทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจำเลยทั้งสองแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเป็นอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรงทำนองเดียวกับการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป หรือสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 65, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 90 และริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพในข้อหาร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แต่ให้การปฏิเสธในข้อหาร่วมกันผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง วรรคสาม (2), 65 วรรคสอง, 66 วรรคสอง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย ซึ่งเป็นบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง แม้จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพข้อหามีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย แต่ก็นำสืบปฏิเสธตลอดมา แต่ทางนำสืบของจำเลยทั้งสองที่ว่ามีเมทแอมเฟตามีนของกลางไว้ในครอบครองถือว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง เห็นควรลดโทษให้คนละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (1) คงจำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต ริบเมทแอมเฟตามีน หลอดกาแฟ 50 หลอด ไฟแช็ก 2 อัน และมีดคัทเตอร์ 1 เล่ม ของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสาม (2), 66 วรรคสอง ลงโทษฐานมียาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุกคนละ 7 ปี และปรับคนละ 400,000 บาท (ที่ถูก จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ) ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกคนละ 3 ปี 6 เดือน และปรับคนละ 200,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 โดยให้กักขังแทนค่าปรับเป็นระยะเวลาเกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 2 ปี ข้อหาอื่นให้ยก นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ขณะที่ถูกจับกุมจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนอยู่ การกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าวเป็นความผิดฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนหรือไม่ เห็นว่า สำหรับความผิดฐานผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4 คำว่า “ผลิต” หมายความว่า เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ และให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุ หรือรวมบรรจุด้วย และมาตรา 65 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ผู้ใดผลิต นำเข้า หรือส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 15 ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งล้านบาทถึงห้าล้านบาท แสดงว่าการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไม่ว่าจะเป็นการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ล้วนแต่เป็นการกระทำที่เป็นภัยอย่างร้ายแรงต่อสังคมเพราะเป็นบ่อเกิดแห่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ทำให้ยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 มีอยู่อย่างแพร่หลาย ยากที่จะปราบปรามให้หมดสิ้นไปได้ กฎหมายจึงได้กำหนดโทษไว้สูงถึงจำคุกตลอดชีวิต ย่อมเห็นได้ว่ากฎหมายกำหนดโทษความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษตามความร้ายแรงของอันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่สังคมจากการกระทำความผิดโดยการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไม่ว่าจะด้วยการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป หรือสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เป็นการกระทำที่มีลักษณะที่จะเกิดอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรงต่อไป เมื่อกฎหมายมีความมุ่งหมายเช่นนี้ คำว่า “ผลิต” ที่กฎหมายบัญญัติให้หมายความรวมตลอดถึงการแบ่งบรรจุด้วยนั้น จึงต้องหมายถึงการกระทำอันมีลักษณะที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม ในทำนองเดียวกับการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ แต่ข้อเท็จจริงคดีนี้ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนจำนวนเพียง 80 เม็ด ใส่หลอดกาแฟ ซึ่งเป็นเพียงวัตถุห่อหุ้มโดยไม่มีการกระทำใด ๆ แก่สภาพของเมทแอมเฟตามีนนั้น และทางนำสืบของโจทก์ไม่ปรากฏพฤติการณ์ว่าจำเลยทั้งสองแบ่งบรรจุเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเป็นอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรงทำนองเดียวกับการ เพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป หรือสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่เป็นความผิดฐานผลิตเมทแอมเฟตามีนเพื่อจำหน่าย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น แต่เห็นว่าหลอดกาแฟ 50 หลอด ไฟแช็ก 2 อัน และมีดคัทเตอร์ 1 เล่ม ของกลางในคดีนี้มิใช่ทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดหรือได้ใช้หรือได้มาโดยได้กระทำความผิด ไม่อาจริบได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ริบมาด้วยนั้นเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ริบหลอดกาแฟ 50 หลอด ไฟแช็ก 2 อัน และมีดคัทเตอร์ 1 เล่ม ของกลาง โดยให้คืนแก่เจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share