คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4581/2552

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

พายุที่เกิดขึ้นเป็นประจำในทะเลจีนใต้และมิใช่พายุที่มีความรุนแรงมิอาจคาดหมาย ทั้งก่อนออกเรือนายเรือก็ทราบข่าวพยากรณ์อากาศว่าจะเกิดคลื่นลมแรง นายเรือยังอาจหลีกเลี่ยงไม่ไปเผชิญกับพายุโดยหยุดเรือรอจนกว่าคลื่นลมสงบก่อนก็ได้ จึงไม่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยหรือภยันตรายหรืออุบัติเหตแห่งท้องทะเลหรือน่านน้ำที่ใช้เดินเรือ เมื่อเหตุแห่งการสูญหายของสินค้าได้เกิดขึ้นระหว่างที่ของอยู่ในความดูแลของจำเลยที่ 2 ผู้ขนส่ง และจำเลยร่วมที่ 2 ผู้ขนส่งอื่นโดยที่จำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมที่ 2 ไม่อาจอ้างข้อยกเว้นความรับผิดได้ จำเลยที่ 2 ผู้ขนส่ง จำเลยร่วมที่ 2 ผู้ขนส่งอื่น และจำเลยที่ 1 กับจำเลยร่วมที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ทำสัญญาแทนจำเลยที่ 2 กับจำเลยร่วมที่ 2 ตามลำดับ จึงต้องรับผิดเพื่อการสูญหายนั้น ตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.การรับขนของทางทะเล พ.ศ.2534
โจทก์ฟ้องโดยอ้างสิทธิตามสัญญารับขนของทางทะเลซึ่งโจทก์รับช่วงสิทธิมาโดยไม่ปรากฏว่ามีข้อตกลงกันให้ใช้ HAGUE RULES ในใบตราส่งที่โจทก์แนบมาท้ายฟ้อง จึงเท่ากับว่าโจทก์ไม่เคยกล่าวอ้างว่า ในสัญญารับขนของทางทะเลระหว่างผู้ส่งกับจำเลยที่ 2 ผู้ขนส่ง มีข้อตกลงกันให้ใช้ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตาม HAGUE RULES ซึ่งกำหนดให้ผู้ขนส่งต้องรับผิดในความสูญหายของสินค้าเกินกว่า 10,000 บาท ต่อ 1 หน่วยการขนส่ง หรือเกินกว่า 30 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม อันเป็นข้อจำกัดความรับผิดโดยผลของมาตรา 58 แห่ง พ.ร.บ.การรับขนของทางทะเล พ.ศ.2534 มาใช้กับการขนส่งครั้งพิพาทด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ในเรื่องดังกล่าวจึงเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีดทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2535 มาตรา 45 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยที่ 1 ต่างจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2544 โจทก์รับประกันภัยสินค้าจำพวกแผ่นเหล็กม้วนรีดเย็น จำนวน 20 แท่นบรรจุสินค้า โดยบริษัทไทยน็อกซ์สตีบ จำกัด เป็นผู้เอาประกันภัยภายในวงเงิน 114,495.84 ดอลลาร์สหรัฐ สินค้าดังกล่าวผู้เอาประกันภัยได้ขายและขนส่งทางทะเลจากราชอาณาจักรไทยไปให้บริษัทเซี่ยงไฮ้ ซีไอเอ็มซี รีเฟอร์ คอนเทนเนอร์ จำกัด ซึ่งอยู่ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และผู้เอาประกันภัยได้ว่าจ้างให้จำเลยทั้งสองเป็นผู้ขนสินค้าดังกล่าว โดยจำเลยที่ 1 ในฐานะส่วนตัวและในฐานะตัวแทนของจำเลยที่ 2 ได้ตกลงทำสัญญารับขนของทางทะเล และได้ออกใบตราส่งในชื่อทางการค้าของจำเลยที่ 2 ต่อมาระหว่างทางสินค้าจำนวน 5 แท่นบรรจุสินค้า ซึ่งบรรจุรวมกันอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 1 ตู้ ได้สูญหายไป ในความดูแลของจำเลยทั้งสองผู้ขนส่ง และการสูญหายดังกล่าวเกิดจากจำเลยทั้งสองประมาทเลินเล่อไม่เอาใจใส่ ไม่ใช้ความระมัดระวังการขนส่งให้ดีพอตามวิชาชีพของตน โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยให้ผู้เอาประกันภัยแล้วเป็นเงิน 1,312,790.97 บาท เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2545 โจทก์จึงรับช่วงสิทธิของผู้เอาประกันภัยซึ่งมีต่อจำเลยทั้งสอง แต่เมื่อโจทก์บอกกล่าวทวงถามจำเลยทั้งสองกลับเพิกเฉย คิดดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 7 มกราคม 2545 ถึงวันฟ้องได้เป็นเงิน 46,397.26 บาท รวมกับต้นเงินเท่ากับ 1,359,188.23 บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 1,359,188.23 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงิน 1,312,790.97 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้ขนส่งสินค้าพิพาท ส่วนจำเลยที่ 1 เป็นเพียงตัวแทนของผู้ขนส่งโดยได้รับแต่งตั้งจากจำเลยที่ 2 ให้มีหน้าที่ดำเนินงานเกี่ยวกับธุรกิจรับขนของทางทะเล จำเลยที่ 1 มิใช่ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นตามกฎหมาย สินค้าพิพาทซึ่งบรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ได้สูญหายไปขณะเรือแล่นอยู่ในทะเลจีนใต้จากท่าเรือฮ่องกงไปยังท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพราะระหว่างวันที่ 15 ถึง 18 ตุลาคม 2544 เกิดพายุและคลื่นใหญ่มากทำให้เรือโคลงเคลงสินค้ากระแทกผนังตู้คอนเทนเนอร์อย่างแรงจนผนังตู้คอนเทนเนอร์ฉีกขาดเป็นรูขนาดใหญ่และสินค้าพิพาทเคลื่อนตัวหลุดออกจากจากตู้คอนเทนเนอร์ตกหล่นลงในทะเลด้วยเหตุสุดวิสัยและภยันตรายหรืออุบัติเหตุแห่งท้องทะเลหรือน่านน้ำที่ใช้เดินเรือ ไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อไม่เอาใจใส่ไม่ใช้ความระมัดระวังในการขนส่งให้ดีพอตามวิชาชีพของตนดังที่โจทก์กล่าวหา จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิด และคดีนี้เป็นกรณีขนสินค้าระบบตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งถือว่าตู้คอนเทนเนอร์เป็นหน่วยการขนส่ง สินค้าพิพาทมีจำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ เท่ากับ 1 หน่วยการขนส่ง จำเลยที่ 2 จึงรับผิดเพียงไม่เกิน 10,000 บาท หรือหากคำนวณตามน้ำหนักสินค้าพิพาทจำนวน 20,366 กิโลกรัม จำเลยที่ 2 รับผิดไม่เกินกิโลกรัมละ 30 บาท เป็นเงินเพียง 610,980 บาท เมื่อผู้รับตราส่งได้ทวงถามให้จำเลยทั้งสองรับผิด จำเลยทั้งสองได้แจ้งแก่ผู้รับตราส่งว่าจำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิดต่อผู้ส่งสินค้า ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้เรียกบริษัทโกบอลคอนเทนเนอร์ ไลน์ จำกัด และบริษัทซามูเดรา ชิปปิ้ง ไลน์ จำกัด เข้ามาเป็นจำเลยร่วม ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางอนุญาต
จำเลยร่วมทั้งสองให้การทำนองเดียวกันว่า จำเลยที่ 2 ได้ว่าจ้างให้จำเลยร่วมที่ 2 เป็นผู้ขนส่งสินค้าพิพาท ส่วนจำเลยร่วมที่ 1 เป็นเพียงตัวแทนของผู้ขนส่ง โดยได้รับแต่งตั้งจากจำเลยร่วมที่ 2 ให้มีหน้าที่ดำเนินงานเกี่ยวกับธุรกิจรับขนของทางทะเล จำเลยร่วมที่ 1 มิใช่ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นตามกฎหมาย สินค้าพิพาทซึ่งบรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ได้สูญหายไปขณะเรือแล่นอยู่ในทะเลจีนใต้จากท่าเรือฮ่องกงไปยังท่าเรือเซี่ยงไฮ้ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพราะระหว่างวันที่ 15 ถึง 18 ตุลาคม 2544 เกิดพายุและคลื่นใหญ่มากทำให้เรือโคลงเคลงสินค้ากระแทกผนังตู้คอนเทนเนอร์อย่างแรงจนผนังตู้คอนเทนเนอร์ฉีกขาดเป็นรูขนาดใหญ่และสินค้าพิพาทเคลื่อนตัวหลุดออกจากตู้คอนเทนเนอร์ตกหล่นลงในทะเลด้วยเหตุสุดวิสัยและภยันตรายหรืออุบัติเหตุแห่งท้องทะเลหรือน่านน้ำที่ใช้เดินเรือ ไม่ได้เกิดจากความประมาทเลินเล่อไม่เอาใจใส่ไม่ใช้ความระมัดระวังในการขนส่งให้ดีพอตามวิชาชีพของตนดังที่โจทก์กล่าวหา จำเลยร่วมทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิด และคดีนี้เป็นกรณีขนสินค้าระบบตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งถือว่าตู้คอนเทนเนอร์เป็นหน่วยการขนส่ง สินค้าพิพาทมีจำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ เท่ากับ 1 หน่วยการขนส่ง จำเลยร่วมที่ 2 จึงรับผิดเพียงไม่เกิน 10,000 บาท หรือหากคำนวณตามน้ำหนักสินค้าพิพาทจำนวน 20,366 กิโลกรัม จำเลยร่วมที่ 2 รับผิดไม่เกินกิโลกรัมละ 30 บาท เป็นเงินเพียง 610,980 บาท เท่านั้น เมื่อจำเลยที่ 2 ได้ทวงถามให้จำเลยร่วมที่ 1 รับผิด จำเลยร่วมที่ 1 ในฐานะตัวแทนของจำเลยร่วมที่ 2 ได้แจ้งแก่จำเลยที่ 2 ว่าจำเลยร่วมทั้งสองไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 2 ดังนั้นจำเลยร่วมทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิดต่อจำเลยที่ 2 หรือต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า ให้ฝ่ายจำเลย (จำเลยทั้งสองและจำเลยร่วมทั้งสอง) ชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 610,980 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 7 มกราคม 2545 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จกับให้ฝ่ายจำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท เฉพาะค่าขึ้นศาลให้ฝ่ายจำเลยใช้แทนตามจำนวนทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี
โจทก์ จำเลยทั้งสองและจำเลยร่วมทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงที่คู่วามไม่โต้แย้งกันในชั้นนี้รับฟังเป็นยุติว่า เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2544 บริษัทไทยน็อกซ์สตีล จำกัด ตกลงขายแผ่นเหล็กม้วนรีดเย็นจำนวน 20 แท่นบรรจุสินค้า ให้แก่บริษัทเซี่ยงไฮ้ ซีไอเอ็มซี รีเฟอร์ คอนเทนเนอร์ จำกัด ซึ่งอยู่ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน บริษัทไทยน็อกซ์สตีล จำกัด ว่าจ้างจำเลยที่ 2 ซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศให้เป็นผู้ขนส่งสินค้าไปยังเมืองเซี่ยงไฮ้โดยจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนผู้ทำสัญญากับบริษัทไทยน็อกซ์สตีล จำกัด ผู้ส่ง แทนจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 ว่าจ้างให้จำเลยร่วมที่ 2 ซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศเป็นผู้ขนส่งอื่น ทำการขนส่งสินค้าโดยเรือเดินทะเลชื่อ “จูรอง เบบารู” เที่ยวที่ 5 เอ็น จากท่าเรือแหลมฉบัง ประเทศไทย ไปยังเมืองเซี่ยงไฮ้ สัญญารับขนระหว่างจำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมที่ 2 นั้น จำเลยร่วมที่ 1 เป็นตัวแทนผู้ทำสัญญากับจำเลยที่ 2 แทนจำเลยร่วมที่ 2 ตามใบตราส่งและใบกำกับสินค้า เอกสารหมาย จ.3 จ.4 จ.7 และ จ.8 โจทก์รับประกันภัยสินค้าดังกล่าวในระหว่างการขนส่งจากบริษัทไทยน็อกซ์สตีล จำกัด จำนวน 114,495.84 ดอลลาร์สหรัฐ ตามกรมธรรม์ประกันภัย เอกสารหมาย จ.9 และ จ.10 จำเลยที่ 2 ได้รับมอบสินค้าไว้จากผู้ส่งที่ท่าต้นทางในสภาพเรียบร้อยครบถ้วน สินค้าได้ถูกนำวางเรียงบนแท่นบรรจุสินค้าจำนวน 20 แท่นบรรจุสินค้า และแยกบรรจุเข้าตู้คอนเทนเนอร์ 4 ตู้ ลงเรือจูรอง เบบารู ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ประเทศไทย เมื่อเรือจูรอง เบบารู เดินทางถึงปลายทางเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2544 ปรากฏว่าสินค้าจำนวน 5 แท่นบรรจุสินค้า ที่ถูกบรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์หมายเลข โอโอแอลยู 324567 สูญหายไปทั้งหมดในระหว่างเรือเดินทางอยู่ในทะเลจีนใต้ เนื่องจากถูกพายุไห่เยี่ยนซึ่งเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ระหว่างวันที่ 15 ถึง 18 ตุลาคม 2544 โดยตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวมีรอยแตกฉีกขาดขนาดใหญ่ที่ผนังด้านขวาของตู้ โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บริษัทเซี่ยงไฮ้ ซีไอเอ็มซี รีเฟอร์ คอนเทนเนอร์ จำกัด ผู้รับประโยชน์ไปเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2545 เป็นเงิน 1,312,790.87 บาท
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสอง และจำเลยร่วมทั้งสองว่าความสูญหายของสินค้าพิพาทเกิดขึ้นจากเหตุสุดวิสัยหรือภยันตรายหรืออุบัติเหตุแห่งท้องทะเลหรือน่านน้ำที่ใช้เดินเรือหรือไม่ เห็นว่า ในปัญหาข้อนี้นายสุรศักดิ์ พยานฝ่ายจำเลยเบิกความตอบคำถามค้านทนายโจทก์ยอมรับว่า ในทะเลจีนใต้ใกล้เขตบริหารพิเศษฮ่องกงมีพายุไต้ฝุ่นเกิดขึ้นประจำและเกิดขึ้นมากในฤดูฝน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดือนตุลาคมของทุกปี ระบบเตือนภัยที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกงมีความเชื่อถือได้ และมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าหากนายเรือเห็นว่าพายุมีความแรงเกินกว่าความสามารถของเรือ นายเรือก็อาจเลื่อนกำหนดการเดินเรือหรืออาจเดินเรือหรืออาจเปลี่ยนเส้นทางเพื่อหลบพายุได้ ทั้งนายสมควร เจ้าหน้าที่อุตุนิยมวิทยา 5 พยานฝ่ายจำเลยอีกปากหนึ่งเบิกความตอบคำถามค้านทนายโจทก์ว่า เขตบริหารพิเศษฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ต่างเป็นเมืองท่าสำคัญ สถานีพยากรณ์อากาศประจำเมืองท่าทั้งสองแห่งมีความน่าเชื่อถือ กรณีพายุไห่เยี่ยนซึ่งเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ระหว่างวันที่ 15 ถึง 18 ตุลาคม 2544 เป็นพายุธรรมดาซึ่งสถานีพยากรณ์อากาศทั้งสองแห่งจะต้องตรวจพบและประกาศแจ้งเตือนชาวเรือด้วย ดังนี้ จากคำเบิกความของพยานฝ่ายจำเลยทั้งสองปากแสดงว่าพายุไห่เยี่ยนเป็นพายุที่เกิดขึ้นเป็นประจำในทะเลจีนใต้และมิใช่พายุที่มีความรุนแรงมิอาจคาดหมาย ทั้งก่อนออกเรือนายเรือก็ทราบข่าวพยากรณ์อากาศว่าจะเกิดคลื่นลมแรง นายเรือยังอาจหลีกเลี่ยงไม่ไปเผชิญกับพายุโดยหยุดเรือรอจนกว่าคลื่นลมสงบก่อนก็ได้ ดังนี้กรณีจึงไม่ถือว่าเป็นเหตุสุดวิสัยหรือภยันตรายหรืออุบัติเหตุแห่งท้องทะเลหรือน่านน้ำที่ใช้เดินเรือ เมื่อเหตุแห่งการสูญหายได้เกิดขึ้นระหว่างที่ของอยู่ในความดูแลของจำเลยที่ 2 ผู้ขนส่ง และจำเลยร่วมที่ 2 ผู้ขนส่งอื่น โดยที่จำเลยที่ 2 และจำเลยร่วมที่ 2 ไม่อาจอ้างข้อยกเว้นความรับผิดได้ จำเลยที่ 2 ผู้ขนส่ง จำเลยร่วมที่ 2 ผู้ขนส่งอื่น และจำเลยที่ 1 กับจำเลยร่วมที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ทำสัญญาแทนจำเลยที่ 2 กับจำเลยร่วมที่ 2 ตามลำดับ จึงต้องรับผิดเพื่อการสูญหายนั้น ตามมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล พ.ศ.2534 ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษามานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองและจำเลยร่วมทั้งสองในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ส่วนที่จำเลยทั้งสองและจำเลยร่วมทั้งสองอุทธรณ์ว่า ความสูญหายของสินค้าเกิดจากการที่บริษัทไทยน็อกซ์สตีล จำกัด ผู้ส่งบรรจุสินค้าโดยรัดตรึงสินค้าไม่ดี เป็นเหตุให้เมื่อเกิดพายุสินค้าตกทะเลสูญหายนั้น เห็นว่า ปัญหานี้จำเลยทั้งสองและจำเลยร่วมทั้งสองมิได้ยกขึ้นต่อสู้ในคำให้การแต่เพิ่งยกขึ้นในชั้นอุทธรณ์ จึงมิใช่เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วเพื่อให้คู่ความทั้งสองฝ่ายได้นำสืบพิสูจน์ข้อเท็จจริงในปัญหาข้อนี้กันอย่างเต็มที่ในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ทั้งมิใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจาณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 45 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคหนึ่ง จำเลยทั้งสองและจำเลยร่วมทั้งสองจึงไม่มีสิทธิยกปัญหานี้ขึ้นอุทธรณ์ได้ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัย
และที่โจทก์อุทธรณ์ว่า บริษัทไทยน็อกซ์สตีล จำกัด ผู้ส่ง กับจำเลยที่ 2 ผู้ขนส่ง โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนตกลงกันให้ใช้ HAGUE RULES ซึ่งกำหนดให้ผู้ขนส่งต้องรับผิดในความสูญหายของสินค้าเกินกว่า 10,000 บาท ต่อ 1 หน่วยการขนส่ง หรือเกินกว่า 30 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม บังคับแก่การขนส่งครั้งพิพาทนั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องโดยอ้างสิทธิตามสัญญารับขนของทางทะเลซึ่งโจทก์รับช่วงสิทธิมาโดยแนบใบตราส่งเป็นเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 3 ซึ่งไม่ปรากฏว่ามีข้อตกลงกันให้ใช้ HAGUE RULES ในใบตราส่งที่โจทก์แนบมาท้ายฟ้องดังกล่าว จึงเท่ากับโจทก์ไม่เคยกล่าวอ้างว่า ในสัญญารับขนของทางทะเลระหว่างบริษัทไทนน็อกซ์สตีล จำกัด ผู้ส่งกับจำเลยที่ 2 ผู้ขนส่ง นั้น มีข้อตกลงกันให้ใช้ข้อจำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งตาม HAGUE RULES ซึ่งกำหนดให้ผู้ขนส่งต้องรับผิดในความสูญหายของสินค้าเกินกว่า 10,000 บาท ต่อ 1 หน่วยการขนส่ง หรือ เกินกว่า 30 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม อันเป็นข้อจำกัดความรับผิดโดยผลของมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล พ.ศ.2534 มาใช้กับการขนส่งครั้งพิพาทด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2535 มาตรา 45 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคหนึ่ง แม้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางรับอุทธรณ์ของโจทก์ในส่วนนี้มาด้วย ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัยให้”
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share