แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ย่อยาว
คดีนี้โจทย์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๑ เวลากลางคืน จำเลยกับพวกประมาณ ๑๓ – ๑๔ คนสมคบกันลักเล่นถั่วฤาโปคำพนันที่บ้านคลองแร้ง ตำบลนาวังหิน อำเภอพนัศ เจ้าพนักงานจับพวกของจำเลยได้พร้อมด้วยของกลาง จึงขอให้ลงโทษแลปรับจำเลยตามพระราชบัญญัติอากรการพนันศก ๑๒๐ กับขอให้ใช้ค่าสินบน ๔๐ บาทด้วย ฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ อ้างฐานที่อยู่ ฯ
ศาลจังหวัดชลบุรีพิพากษาให้ปรับแต่พวกของจำเลย ส่วนตัวจำเลยนั้นฟังว่าไม่มีความผิดให้ปล่อยตัวไป ฯ
โจกย์แลจำเลยที่ต้องปรับอุทธรณ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยกับพวกได้ลักเล่นกำถั่วพนันเอาเงินกัน นายสวัสดิ์แลนายชมผู้ที่นำไปจับได้เห็นจำเลยกับพวกคำสังประชุมเล่นกันอยู่ นายชมผู้ที่เข้าไปยืนดูจำเลยเล่นในคราวที่ถั่วออกครั้งหนึ่ง มีเงินแทงกันไม่ต่ำกว่า ๘ บาท เมื่อเจ้าพนักงานไปจับนายเชยหลบหนีไปได้ จับได้แต่พวกของจำเลยบางคน จำเลยนั้นพึ่งจับตัวได้เมื่อภายหลัง ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษเห็นว่านายเขยจำเลยกับพวกทำผิดพระราชบัญญัติอากรการพนันศก ๑๒๐ มาตรา ๑๑ จึงพิพากษาให้จำคุกนายเชย ๔ เดือน กับปรับเปนเงินพินัยหลวง ๕๐๐ บาทฤาเปลี่ยนโทษจำแทน ๖ เดือน ให้เสียสินบนอีก ๔๐ บาทเปนบำเหน็จแก่ผู้นำจับ ถ้าไม่มีเงินสินบนเสียให้แบ่งการจำแทน ๖ วัน
จำเลยแต่ผู้เดียวทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกา ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนเรื่องนี้แล้ว ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยมีพรรคพวกได้ลักเล่นกำถั่วพนันกันจริงดุจคำหา ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิพากษาลงโทษแลปรับจำเลยนั้นต้องด้วยทางพิจารณาแล้ว ฎีกาจำเลยไม่มีเหตุอันควรที่จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษได้ ให้ยกฎีกาจำเลยเสีย ฯ
วันที่ ๗ กรกฎาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓