แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หมายนัดมีข้อความว่า “นัดฟังประเด็นกลับและสืบพยาน” แม้มีการพิมพ์เพิ่มเติมคำว่า “และสืบพยาน” และ ไม่มีการลงลายมือชื่อกำกับไว้ แต่ข้อความในหมายนัดดังกล่าวมีข้อความถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไว้ในหนังสือส่งประเด็นคืนของศาลจังหวัดปทุมธานี ทั้งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นได้ลงลายมือชื่อไว้ในหมายนัดตามระเบียบ การออกหมายนัดดังกล่าวจึงชอบแล้ว
แม้หมายนัดจะมีข้อความว่านัดสืบพยานโดยมิได้ระบุให้ชัดเจนว่านัดสืบพยานโจทก์ แต่คดียังอยู่ในขั้นตอนการสืบพยานโจทก์ และโจทก์มีพยานบุคคลอีกหลายปากที่เป็นพยานนำ ซึ่งโจทก์จะต้องนำมาสืบต่อศาลชั้นต้น ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานไว้จึงหมายถึงนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์จะต้องนำพยานมาสืบตามนัดหากมีเหตุขัดข้องไม่อาจนำพยานมาสืบได้ โจทก์ก็ควรยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี แต่ทนายโจทก์เพียงแต่มอบฉันทะให้เสมียนทนายโจทก์มาฟังประเด็นกลับ กำหนดวันนัดสืบพยาน และรับทราบคำสั่งศาลเท่านั้น โดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีด้วย แสดงว่าโจทก์มิได้เอาใจใส่คดีของตนว่าศาลชั้นต้นนัดมาเพื่อพิจารณาในเรื่องใด ไม่นำพยานมาสืบตามหน้าที่นำสืบและตามที่ ศาลชั้นต้นนัด ที่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานโจทก์ชอบแล้ว
แม้เจ้าพนักงานศาลจัดส่งประเด็นไปศาลอื่นตามคำสั่งของศาลชั้นต้นโดยโจทก์ซึ่งเป็นผู้ขอส่งประเด็นยังมิได้ชำระค่าส่งประเด็นก็ตาม การส่งประเด็นนั้นก็ชอบแล้ว เพราะศาลมีอำนาจเรียกให้โจทก์ชำระค่าส่งประเด็นในภายหลังได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามให้ร่วมกันหรือแทนกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 3 ให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์โดยจำเลยที่ 3 ขาดนัดพิจารณา เมื่อสืบพยานโจทก์ได้ 1 ปาก แล้วส่งประเด็น ไปสืบพยานโจทก์ที่ศาลจังหวัดปทุมธานี ครั้นถึงวันนัดคู่ความไม่ไปศาล ศาลที่รับประเด็นจึงส่งประเด็นคืน ศาลชั้นต้นนัดฟังประเด็นกลับและนัดสืบพยาน ครั้นถึงวันนัดโจทก์ไม่ไปศาล คงมอบฉันทะให้เสมียนทนายโจทก์ไปแทนศาลชั้นต้นมีคำสั่งในรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 22 มีนาคม 2543 ว่าโจทก์ทราบนัดแล้ว แต่ไม่มีพยานมาศาล จึงให้งดสืบพยานโจทก์ แล้วนัดสืบพยานจำเลย เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลย จำเลยที่ 3 ไม่สืบพยาน ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจ วินิจฉัยว่าศาลชั้นต้นมีหมายนัดโดยระบุข้อความว่า “นัดฟังประเด็นกลับและสืบพยาน” โดยมีการพิมพ์เพิ่มเติมคำว่า “และสืบพยาน” ซึ่งไม่มีการลงลายมือชื่อกำกับไว้ แต่ข้อความในหมายนัดดังกล่าวถูกต้องตรงตามที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไว้ในหนังสือส่งประเด็นคืนของศาลจังหวัดปทุมธานีว่า “นัดฟังประเด็นกลับและสืบพยาน
” ทั้งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นให้ลงลายมือชื่อไว้ในหมายนัดตามระเบียบแล้ว การออกหมายนัดดังกล่าวจึงชอบแล้ว แม้หมายนัดจะมีข้อความว่านัดสืบพยานโดยมิได้ระบุให้ชัดเจนว่านัดสืบ พยานโจทก์ แต่คดียังอยู่ในขั้นตอนการสืบพยานโจทก์ และโจทก์มีพยานบุคคลอีกหลายปากที่เป็นพยานนำ ซึ่งจะต้องนำมาสืบต่อศาลชั้นต้น ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นนัดสืบพยานไว้จึงหมายถึงนัดสืบพยานโจทก์นั่นเอง ที่โจทก์อ้างว่า ไม่ทราบว่าศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์ด้วยนั้น ไม่ชอบด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริงโจทก์จะต้องนำพยานมาสืบตามนัดหากมีเหตุขัดข้องไม่อาจนำพยานมาสืบได้ โจทก์ก็ควรยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นวันนัดสืบพยาน ฝ่ายจำเลย หากโจทก์ไม่สามารถมาศาลได้ก็ยังต้องยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีเช่นเดียวกัน แต่ทนายโจทก์เพียงมอบฉันทะให้เสมียนทนายโจทก์มาฟังประเด็นกลับ กำหนดวันนัดสืบพยาน และรับทราบคำสั่งศาลเท่านั้น โดยมิได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีด้วย แสดงว่าโจทก์มิได้เอาใจใส่คดีของตนว่าศาลชั้นต้นนัดมาเพื่อพิจารณาคดีในเรื่องใด ทั้งไม่นำพยานมาสืบตามหน้าที่นำสืบและตามที่ศาลชั้นต้นนัด เพื่อให้คดีเสร็จการพิจารณาไปโดยเร็วตามที่ควรจะเป็น ที่โจทก์อ้างว่า ในวันนัดสืบพยานประเด็นโจทก์ที่ศาลจังหวัดปทุมธานี โจทก์มิได้ชำระค่าส่งประเด็น และหลงเข้าใจผิดโดยสุจริตว่าสำนวนคดีอยู่ที่ศาลชั้นต้นยังมิได้ส่งประเด็นไปศาลจังหวัดปทุมธานี โจทก์จึงไปที่ศาลชั้นต้นยื่นคำแถลงขอชำระค่าส่งประเด็นและยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี ก่อนเวลาที่ศาลจังหวัดปทุมธานีออกนั่งพิจารณาคดีศาลชั้นต้นควรจะแจ้งไปยัง ศาลจังหวัดปทุมธานีถึงสาเหตุขัดข้องตามที่โจทก์ขอเลื่อนคดีเพื่อศาลจังหวัดปทุมธานีจะได้ทราบสาเหตุขัดข้องของโจทก์และกำหนดวันนัดสืบพยานประเด็นโจทก์ใหม่ตามที่โจทก์ขอนั้น เป็นเพียงข้อแก้ตัวของโจทก์หากโจทก์ใส่ใจคดี ของตนโจทก์ควรชำระค่าส่งประเด็นในวันที่ขอส่งประเด็นตามคำสั่งศาลชั้นต้น แต่หากโจทก์หลงลืมไม่ได้ชำระใน วันดังกล่าว โจทก์จะต้องเตรียมคดีโดยขอหมายเรียกพยานประเด็นโจทก์ต่อศาลจังหวัดปทุมธานีซึ่งโจทก์จะทราบว่ามีการส่งประเด็นไปตามที่โจทก์ขอแล้ว แต่โจทก์หาได้ขอหมายเรียกพยานประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่าโจทก์ไม่ได้เอาใจใส่คดีของตน การที่โจทก์มาขอชำระค่าส่งประเด็นและขอเลื่อนคดีต่อศาลชั้นต้น จึงเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อขอเลื่อนคดี เพราะโจทก์ไม่ได้ขอหมายเรียกพยานประเด็นต่อศาลจังหวัดปทุมธานีนั่นเอง ข้ออ้างของโจทก์ จึงฟังไม่ขึ้นเมื่อศาลชั้นต้นนัดฟังประเด็นกลับและสืบพยาน ทนายโจทก์เพียงแต่มอบฉันทะให้เสมียนทนายโจทก์มาศาลเพื่อฟังประเด็นกลับ กำหนดวันนัดสืบพยานและรับทราบคำสั่งศาลชั้นต้นเท่านั้น โดยไม่นำพยานโจทก์มาสืบ เป็นการประวิงคดีให้ชักช้า การที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ไม่มีพยานมาศาลและสั่งงดสืบพยานโจทก์นั้นจึงชอบแล้ว
เจ้าพนักงานศาลชั้นต้นส่งประเด็นไปยังศาลจังหวัดปทุมธานีตามคำสั่งศาลชั้นต้นโดยชอบแล้ว ส่วนการชำระค่าส่งประเด็นเป็นหน้าที่ของโจทก์ หากโจทก์มิได้ชำระค่าส่งประเด็นตามคำสั่งศาลชั้นต้น ศาลมีอำนาจเรียกให้โจทก์ชำระค่าส่งประเด็นในภายหลังได้ การส่งประเด็นจึงชอบแล้ว
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.