คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4145/2548

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ เป็นเพียงรอยเปื้อนหมึกไม่เห็นลายของนิ้วมือ แต่ใต้ลายพิมพ์ ก็มีคำอธิบายในวงเล็บว่า เป็นลายพิมพ์นิ้วมือของบุคคล ทำให้สามารถเข้าใจได้ว่ารอยดังกล่าวเป็นรอยของลายพิมพ์นิ้วมือ มิใช่รอยเปื้อนหมึก เมื่อโจทก์มีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคนและโจทก์มีพยานมาเบิกความประกอบเอกสารว่าลายพิมพ์ดังกล่าวเป็นลายพิมพ์นิ้วหัวแม่มือข้างขวาของโจทก์ซึ่งนำสืบได้เพราะเป็นรายละเอียด การลงลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยแบ่งทรัพย์สินอันเป็นมรดกของนายแสงชัยให้แก่โจทก์หนึ่งส่วนในสามส่วน หากไม่สามารถดำเนินการได้ให้จำเลยชดใช้เงินแก่โจทก์จำนวน 32,697,267 บาท หากจำเลยไม่จัดการแบ่งทรัพย์มรดกของนายแสงชัยให้โจทก์ และจำเลยไม่ชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์ให้นำทรัพย์มรดกของนายแสงชัยทุกรายการออกขายทอดตลาดนำเงินจำนวน 32,697,267 บาท มาใช้แก่โจทก์ต่อไป
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้มอบอำนาจให้นางอำไพ ฟ้องคดีนี้ หนังสือมอบอำนาจเป็นเอกสารปลอม ลายพิมพ์นิ้วมือในหนังสือมอบอำนาจไม่ใช่ของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา โจทก์ถึงแก่กรรม นางอำไพ ทายาทของโจทก์ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยแบ่งทรัพย์สินตามคำฟ้องข้อ 2.1 ถึง 2.9 อันเป็นทรัพย์สินตามที่ปรากฏในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 2521/2539 ของศาลชั้นต้น และรถยนต์ยี่ห้อเบ็นซ์หมายเลขทะเบียน ง – 4659 นนทบุรี ให้แก่โจทก์หนึ่งส่วนในหกส่วนทุกรายการ หากการแบ่งทรัพย์สินตามฟ้องข้อ 2.1 ถึง 2.6 หรือทรัพย์สินดังที่ปรากฏในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 2521/2539 ของศาลชั้นต้นและรถยนต์ดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้ ให้นำทรัพย์สินดังกล่าวออกขายทอดตลาดแล้วนำเงินที่ได้จากการขายให้แก่โจทก์หนึ่งส่วนในหกส่วน ให้จำเลยชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 15,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ลายพิมพ์ที่ปรากฏจะไม่เห็นลายของนิ้วมือ แต่ใต้ลายพิมพ์ก็มีคำอธิบายในวงเล็บว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วมือของบุคคล ทำให้สามารถเข้าใจได้ว่ารอยดังกล่าวเป็นรอยของลายพิมพ์นิ้วมือ มิใช่รอยเปื้อนหมึก กอปรกับ ป.พ.พ. มาตรา 9 วรรคสอง บัญญัติมีใจความว่าลายพิมพ์นิ้วมือที่ทำลงในเอกสาร หากมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคนแล้วให้ถือเสมอกับการลงลายมือชื่อ ดังนั้น แม้ลายพิมพ์นิ้วมือดังกล่าวจะไม่ปรากฏลายของนิ้วมือ แต่เมื่อมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคนแล้ว และการสืบพยานโจทก์มีนางอำไพ ผู้รับมอบอำนาจซึ่งต่อมาคือผู้เข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะมาเบิกความประกอบเอกสารสรุปความว่าเป็นลายพิมพ์นิ้วหัวแม่มือข้างขวาของโจทก์ ซึ่งนำสืบได้เพราะเป็นรายละเอียด โดยมีนางจินดา นายแพทย์เปรม และนายนิตินาถ ซึ่งเป็นพยานในเอกสารและผู้รับรองมาเป็นพยานยืนยันตรงกัน พยานหลักฐานของโจทก์จึงมีน้ำหนักมากกว่า ฟังได้ว่าหนังสือมอบอำนาจของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share