คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2226/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เงินในตู้บริจาคของศาลเจ้าและเงินของผู้ดูแลศาลเจ้า แม้จะเก็บรักษาไว้ในศาลเจ้า ก็มิใช่วัตถุในทางศาสนา การที่จำเลยกับพวกปล้นทรัพย์ดังกล่าวจึงมิได้กระทำต่อทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 ทวิ วรรคแรก และไม่อาจเป็นความผิดตามมาตรา 335 ทวิ วรรคสองได้ ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา 340 ทวิ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกเข้าไปในศาลเจ้าแป๊ะกงซำไซส่วยและร่วมกันปล้นทรัพย์เงินสด ๒,๐๐๐ บาท ของนายบักเคี้ยง แซ่ล้อและเงินสด ๑๐๐ บาท ในตู้บริจาคของศาลเจ้าดังกล่าวซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของนายบักเคี้ยง ไปโดยจำเลยกับพวกใช้ไม้ท่อนตีประทุษร้ายนายบักเคี้ยง และใช้กางเกงขาสั้นผูกรัดคอนายบักเคี้ยงจนถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓, ๓๔๐, ๓๔๐ ทวิ และสั่งริบไม้ท่อนของกลาง คืนผ้าขาวม้า กางเกงขาสั้นกรอบตู้บริจาคพร้อมกระจกของกลางแก่เจ้าของ กับให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๒,๑๐๐ บาทแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐, ๓๔๐ ทวิ ให้ประหารชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามคงจำคุกตลอดชีวิตคืนไม้ท่อน ผ้าขาวม้า กางเกงขาสั้น และกรอบตู้บริจาคพร้อมกระจกของกลางแก่เจ้าของ ให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๒,๑๐๐ บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกับพวกเป็นคนร้ายรายนี้ แต่ที่ศาลอุทธรณ์ปรับบทว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ ทวิ ด้วยนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะความผิดตามมาตรา ๓๔๐ ทวิ วรรคแรก จะต้องเป็นการกระทำต่อทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคแรก และความผิดตามมาตรา ๓๔๐ ทวิ วรรคสองเป็นกรณีปล้นทรัพย์ตามมาตรา ๓๔๐ ทวิ วรรคแรก ถ้าการปล้นทรัพย์นั้นเป็นการกระทำในสถานที่ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๓๕ทวิ วรรคสองด้วย ส่วนความผิดตามมาตรา ๓๔๐ ทวิ วรรคอื่นเป็นเหตุฉกรรจ์ของความผิดตามวรรคแรกกับวรรคสองที่กฎหมายกำหนดโทษผู้กระทำความผิดไว้สูงขึ้นไป มาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคแรก เป็นกรณีลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูปหรือวัตถุในทางศาสนา ถ้าทรัพย์นั้นเป็นที่สักการะบูชาของประชาชน หรือเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของพระพุทธรูปหรือวัตถุดังกล่าว ส่วนความผิดตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคสอง เป็นกรณีกระทำความผิดตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคแรก ถ้าการกระทำนั้นได้กระทำในวัด สำนักสงฆ์สถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนา โบราณสถานอันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน สถานที่ราชการหรือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติศาลฎีกาเห็นว่า เงินในตู้บริจาคของศาลเจ้าและเงินของผู้ดูแลศาลเจ้าแม้จะเก็บรักษาไว้ในศาลเจ้าก็มิใช่วัตถุในทางศาสนา การปล้นทรัพย์รายนี้จึงมิได้กระทำต่อทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคแรก เมื่อมิได้กระทำต่อทรัพย์ตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคแรกแล้ว จึงไม่อาจเป็นความผิดตามมาตรา ๓๓๕ ทวิ วรรคสองได้ ดังนั้น การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามมาตรา ๓๔๐ ทวิ ไม่ว่าจะเป็นวรรคใด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๒,๑๐๐ บาท แก่ผู้เสียหายนั้น ปรากฏว่าเงินจำนวนนี้อยู่ในตู้บริจาคของศาลเจ้าแป๊ะกงซำไซส่วย ๑๐๐ บาท ส่วนอีก ๒,๐๐๐ บาท เป็นของผู้ตาย ศาลฎีกาจึงเห็นควรแก้ให้ชัดเจน
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคท้าย ให้ประหารชีวิต คำรับสารภาพชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามาก นับเป็นเหตุบรรเทาโทษได้พิเคราะห์ถึงความรู้สึกความผิดของจำเลยและรูปคดีแล้ว ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ กึ่งหนึ่ง วางโทษในเกณฑ์ต่ำของมาตรา ๕๒ (๒) ให้จำคุกจำเลย ๒๕ ปีให้จำเลยคืนหรือใช้เงิน ๒,๐๐๐ บาท แก่ทายาทของผู้ตาย ส่วนอีก ๑๐๐ บาท คืนให้แก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share