คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1763/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีความผิดพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ และความผิดลหุโทษเกี่ยวกับอาวุธปืน แม้ไม่ได้อาวุธปืนและกระสุนปืนจากจำเลยเป็นของกลาง แต่ฟังได้ว่าจำเลยชักอาวุธปืนออกมายิงขึ้นฟ้า 1 นัด จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ก็ลงโทษจำเลยฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในหมู่บ้าน ในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในเมืองหมู่บ้าน หรือที่ชุมชนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนพก ๑ กระบอกไม่ปรากฏขนาดและไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานและมีกระสุนปืน ๑ นัด ไม่ปรากฏขนาดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วจำเลยได้พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวติดตัวไปที่ร้านขายอาหารบริเวณหน้าโรงภาพยนตร์ โดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำเลยใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงขึ้นฟ้า ๑ นัด โดยใช่เหตุอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา ๗, ๘, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑, ๓๗๖, ๙๑
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์โดยอธิบดีกรมอัยการรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง ฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืน จำคุก ๑ ปี ฐานพาอาวุธปืนจำคุก ๖ เดือนและฐานยิงปืนปรับ ๕๐๐ บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยกับพวกไปรับประทานอาหารที่ร้านของนางกรุณา ซึ่งตั้งอยู่ที่หน้าโรงภาพยนตร์ในเขตเทศบาลเมืองนครปฐม จำเลยขอให้นางกรุณาเปิดตู้เพลงหลายครั้ง แต่นางกรุณาปฏิเสธอ้างว่าเป็นเวลาหลังเที่ยงคืนสารวัตรปกครองป้องกันสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครปฐมขอร้องไม่ให้เปิดเพราะจะเป็นที่เดือดร้อนรำคาญแก่ชาวบ้าน จำเลยไม่พอใจจึงชักอาวุธปืนสั้นออกมายิงขึ้นฟ้า ๑ นัด และวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า
เมื่อปรากฏตามที่โจทก์นำสืบเจือสมกับคำเบิกความของจำเลยว่าจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ฉะนั้นแม้จะไม่ได้อาวุธปืนและกระสุนปืนจากจำเลยเป็นของกลางก็ตาม ก็ฟังได้ว่าจำเลยมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านในเมืองและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน
พิพากษายืน.

Share