คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1450/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยใช้มีดขนาดยาว 8 นิ้ว กว้าง 2 นิ้วแทงผู้เสียหายถูกที่หัวไหล่ 2 แผล โดยไม่ปรากฏว่าตั้งใจเลือกแทงอวัยวะสำคัญ บาดแผลที่หนึ่งขนาด 6 คูณ 2 เซนติเมตรลึกทะลุแขน ส่วนแผลที่สองขนาด 3 คูณ 1 เซนติเมตรแผลทะลุ ผู้เสียหายรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 วัน และไม่สามารถประกอบกรณียกิจโดยปกติอีก 2 เดือน เช่นนี้ ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่ฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสอย่างไร จึงจะพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดอาวุธแทงทำร้ายผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่า ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บจนช็อค แพทย์รักษาไว้ทัน ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายดังเจตนาจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ และนับโทษจำเลยต่อจากโทษในคดีอาญา หมายเลขแดงที่ ๑๖/๒๕๒๖ ของศาลทหารกรุงเทพ (ศาลจังหวัดลพบุรี)
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีอาญา หมายเลขแดงที่ ๑๖/๒๕๒๖ ของศาลทหารกรุงเทพ (ศาลจังหวัดลพบุรี)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๕๒๖ ของศาลทหารกรุงเทพ (ศาลจังหวัดลพบุรี)
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ จำคุก ๓ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยวิ่งไล่แทงผู้เสียหายถูกที่หัวไหล่ขวา ๒ แผล บาดแผลที่หนึ่งขนาด ๖ คูณ ๒ เซนติเมตรลึกทะลุแขน ส่วนแผลที่สองขนาด ๓ คูณ ๑ เซนติเมตร แผลทะลุ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล ๑๐ วัน และไม่สามารถประกอบกรณียกิจโดยปกติอีก ๒ เดือน การที่จำเลยใช้มีดขนาดยาว ๘ นิ้ว กว้าง ๒ นิ้วแทงผู้เสียหายถูกที่หัวไหล่ ๒ แผลโดยไม่ปรากฏว่าตั้งใจเลือกแทงอวัยวะสำคัญนั้น กรณียังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่คดีนี้แต่ฟ้องโจทก์มิได้บรรยายว่าผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัสอย่างไร จึงจะพิพากษาลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๗ ไม่ได้
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๕ จำคุก ๑ ปี นอกจาที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share