แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
คดีห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง ผู้พิพากษาศาลชั้นต้นรับรองฎีกาของจำเลยว่า แม้ไม่เป็นปัญหาสำคัญ แต่น่าจะให้โอกาสจำเลยเพื่อศาลสูงสุดชี้ขาด ถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกาโดยชอบ
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตาม พระราชบัญญัติการพนัน ฯ จำคุกจำเลยที่ 3 2 เดือน 15 วัน ปรับ 5,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 1 เดือน 15 วัน ปรับ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 3, 5 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 2 เดือน 15 วัน ปรับ 500 บาท จำคุกจำเลยที่ 5 มีกำหนด 1 เดือน 15 วัน และปรับ 500 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โดยไม่รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 3 ที่ 5 ฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกเป็นการฎีกาคัดค้านดุลพินิจของศาลอุทธรณ์อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8 พ.ศ. 2517 มาตรา 6 เว้นแต่ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษา หรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์พิเคราะห์เห็นว่าข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสุงสุดและอนุญาตให้ฎีกา หรืออธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย จึงให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 คดีนี้ผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นได้รับรองฎีกาจำเลยที่ 3 ที่ 5 โดยบันทึกเหตุผลในคำรับรองว่า “พิเคราะห์สภาพแห่งความผิดและโทษที่ลงแก่จำเลยที่ 3 และที่ 5 ประกอบกับเหตุผลตามคำร้อง แม้จะไม่เป็นปัญหาสำคัญเพียงแต่เป็นฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจของศาลล่างน่าจะให้โอกาสจำเลยที่ 3 และที่ 5 สักครั้งหนึ่งเพื่อศาลสูงสุดจะได้ชี้ขาด จึงรับรองฎีกาให้” บันทึกเช่นนี้มิได้แสดงว่ามีปัญหาสำคัญอันผู้พิพากษาลงชื่อในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 ถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกาโดยชอบศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้”
พิพากษายืน