คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3484/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามบทบัญญัติในมาตรา 21 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ พ.ศ. 2499 นั้น เมื่อผู้อำนวยการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งรองผู้อำนวยการก็เป็นผู้รักษาการแทนทันทีโดยไม่ต้องแต่งตั้ง มิใช่หมายถึงกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้จริง ๆ หรือในกรณีที่มีเหตุอันเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติอย่างแท้จริงดังนั้น เมื่อผู้อำนวยการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานเนื่องจากไปพบรัฐมนตรีเจ้าสังกัดที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองผู้อำนวยการจึงมีอำนาจลงชื่อแต่งตั้งทนายความให้ฟ้องคดีได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในการที่บริษัท ส. ไม่ปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้แก่โจทก์
จำเลยให้การต่อสู้คดีหลายประการ และต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะผู้ดำเนินคดีแทนโจทก์มิใช่เป็นผู้ที่มีอำนาจทำการแทนโจทก์ และมิได้รับมอบอำนาจจากโจทก์
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า รองผู้อำนวยการองค์การโจทก์ไม่มีอำนาจแต่งตั้งทนายความฟ้องจำเลย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๒๑ เมื่อผู้อำนวยการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง รองผู้อำนวยการก็เป็นผู้รักษาการแทนทันทีโดยไม่ต้องแต่งตั้ง องค์การโจทก์เป็นองค์การของรัฐบาลที่ตั้งขึ้นเพื่อประโยชน์ในทางเศรษฐกิจ มีวัตถุประสงค์ดังที่ระบุไว้ในมาตรา ๖ และมาตรา ๗ ยังให้อำนาจโจทก์ในการประกอบธุรกิจและการค้าอย่างกว้างขวาง ย่อมต้องการความรวดเร็วและความคล่องตัวในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการเพื่อให้ทันต่อความเคลื่อนไหวในทางธุรกิจการค้า มิฉะนั้นอาจเกิดความเสียหายได้ ดังนั้น ในกรณีที่ผู้อำนวยการไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งก็ตาม รองผู้อำนวยการย่อมมีอำนาจเป็นผู้ทำการแทนในฐานะเป็นผู้รักษาการแทนได้ทันที มิใช่หมายถึงกรณีที่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้จริง ๆ หรือในกรณีที่มีเหตุอันเป็นอุปสรรคต่อการที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามปกติอย่างแท้จริง กรณีนี้ผู้อำนวยการไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในสำนักงานเนื่องจากไปพบรัฐมนตรีเจ้าสังกัด ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองผู้อำนวยการจึงมีอำนาจลงชื่อแต่งตั้งทนายความในฟ้องคดีนี้ได้ ทั้งยังได้ความว่าได้เคยกระทำมาหลายครั้งแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามสัญญาค้ำประกัน
พิพากษากลับ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ตามคำฟ้อง

Share