คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 647/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยใช้ให้ลูกจ้างขับรถให้จำเลยแล้วเกิดอุบัติเหตุลูกจ้างถึงแก่ความตาย ดังนี้ คำฟ้องของโจทก์แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาแล้ว เพราะโจทก์มิได้ฟ้องเกี่ยวกับความประมาทจึงไม่จำต้องบรรยายว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท
การที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยปฏิบัติตามคำสั่งเงินทดแทนของพนักงานเงินทดแทน มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164
ส่วนจำเลยถ้าไม่พอใจคำสั่งเงินทดแทนดังกล่าว ก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่ออธิบดีกรมแรงงานภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง หากจำเลยมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีการตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย จำเลยจึงต้องจ่ายเงินทดแทนตามคำสั่งเงินทดแทน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นทายาทของ ด. ผู้ตายซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลย จำเลยสั่งให้ ด. ขับรถบรรทุกไปส่งข้าวเปลือกให้ลูกค้าแล้วเกิดอุบัติเหตุ ด.ถึงแก่ความตายโจทก์ได้ยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนต่อพนักงานเงินทดแทน พนักงานเงินทดแทนพิจารณาแล้วเห็นว่า ด. ได้ประสบอันตรายถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่จำเลยซึ่งเป็นายจ้าง จึงมีคำสั่งให้จำเลยจ่ายเงินทดแทนแก่โจทก์เป็นรายเดือนมีกำหนด ๕ ปี จำเลยได้ปฏิบัติตามโดยจ่ายเงินทดแทนรวม ๙ งวด แล้วผิดนัดไม่ยอมปฏิบัติตาม ขอให้จำเลยจ่ายเงินทดแทนรายเดือนต่อไปจนกว่าจะครบตามคำสั่งเงินทดแทนพร้อมทั้งดอกเบี้ยในเงินค่าทดแทนรายเดือนที่จำเลยค้างชำระในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การว่า คดีของโจทก์ขาดอายุความ ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมด. ขับรถด้วยความมึนเมาและประมาทเป็นการจงใจให้ตนเองหรือผู้อื่นประสบอันตราย นายจ้างจึงไม่ต้องจ่ายเงินทดแทนให้ การกระทำของ ด.ทำให้จำเลยต้องเสียหาย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าทดแทนที่จำเลยค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จและให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนเป็นรายเดือนตามคำสั่งเงินทดแทน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ฟ้องเรียกร้องให้จำเลยจ่ายเงินทดแทนแก่โจทก์ ตามคำสั่งเงินทดแทนที่ ๑/๒๕๒๑ โดยบรรยายฟ้องว่าโจทก์เป็นทายาทของ ด. ลูกจ้างจำเลย จำเลยใช้ให้ ด. ปฏิบัติหน้าที่โดยขับรถบรรทุกข้าวเปลือกไปส่งลูกค้า ขากลับเกิดอุบัติเหตุเป็นเหตุให้ ด.ถึงแก่ความตาย โจทก์ได้ยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนต่อพนักงานเงินทดแทนพนักงานเงินทดแทนมีคำสั่งให้จำเลยจ่ายเงินทดแทนแก่โจทก์ จำเลยจ่ายเงินทดแทนให้โจทก์ ๖ งวดแล้วไม่จ่ายให้อีก ขอให้จำเลยจ่ายเงินทดแทนตามคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนให้ครบ คำฟ้องของโจทก์แสดงโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้ว คำฟ้องของโจทก์มิได้ฟ้องเกี่ยวกับความประมาทอันจะทำให้โจทก์หรือผู้ใดเสียหายแต่ประการใด จึงไม่จำต้องบรรยายว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท คำฟ้องของโจทก์ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่เคลือบคลุม
การฟ้องให้ปฏิบัติตามคำสั่งเงินทดแทนของพนักงานเงินทดแทนซึ่งจำเลยจ่ายให้โจทก์ ๖ งวด แล้วไม่จ่ายอีก ไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้จึงมีอายุความ ๑๐ ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๔ นับตั้งแต่จำเลยจ่ายเงินทดแทนงวดที่ ๖ จนถึงวันฟ้องยังอยู่ภายในระยะเวลา๑๐ ปี คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
การจ่ายเงินทดแทนนั้น ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๑๕ ข้อ ๖๐ บังคับไว้ว่า ในกรณีที่นายจ้างหรือผู้ยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนไม่พอใจคำสั่งของพนักงานเงินทดแทน ให้มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนั้นต่ออธิบดีได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันทราบคำสั่ง จำเลยได้ทราบคำสั่งและปฏิบัติตามคำสั่งเงินทดแทนของพนักงานเงินทดแทน โดยจ่ายเงินทดแทนให้แก่โจทก์แล้วหกงวดเป็นเวลาหกเดือน จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งนั้นภายในสามสิบวันนับแต่วันทราบคำสั่ง จำเลยจึงต้องจ่ายเงินทดแทนตามคำสั่งของพนักงานเงินทดแทน
พิพากษายืน

Share