คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2288/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าหนี้จะขอรับชำระหนี้ค่าเช่าตึกแถวอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่มีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อของลูกหนี้ผู้เช่า ตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 หาได้ไม่ และจะอ้างว่าขอรับชำระหนี้เป็นค่าเสียหายก็ไม่ได้เพราะลูกหนี้มิได้เข้าไปอยู่หรือใช้ประโยชน์ในตึกแถวของเจ้าหนี้โดยการทำละเมิดต่อเจ้าหนี้ ลูกหนี้จึงไม่จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแต่อย่างได

ย่อยาว

คดีนี้ เจ้าหนี้รายที่ ๕ ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อ้างว่าลูกหนี้เป็นหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ๑ ฉบับ จำนวนเงิน ๔๐,๐๐๐ บา กับได้จ่ายเงินสำรองให้แก่ลูกค้าของลูกหนี้ไป ๑๔๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๑๘๐,๐๐๐ บาท โจทก์ยื่นคำร้องคัดค้านว่าหนี้กู้ยืม ๔๐,๐๐๐ บาท สมคบกับทำขึ้นเพื่อฉ้อฉลโจทก์และไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ หนี้ที่จ่ายเงินสำรองให้ลูกค้าไป ๑๔๐,๐๐๐ บาท เป็นการจัดการงานนอกสั่ง เจ้าหนี้ไม่มีหน้าที่ต้องทำเช่นนั้น และอ้างขึ้นมาลอยๆ โดยไม่มีหลักฐานสนับสนุน หรือหากมีก็รับฟังไม่ได้เพราะทำขึ้นโดยกลฉ้อฉล เจ้าหนี้ไม่มีฐานะทางการเงินพอที่จะจ่ายสำรองแทนลูกหนี้ได้ดังที่อ้าง และสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ทั้ง ๒ รายการขาดอายุความ
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้ว ทำความเห็นเสนอศาลชั้นต้นว่าควรให้นางกิตติมา เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เฉพาะหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน ๔๐,๐๐๐ บาท กับหนี้ซึ่งเป็นเงินเดือนของเจ้าหนี้ที่ลูกหนี้ยังไม่ได้จ่ายให้ ๖ เดือน เป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๗๐,๐๐๐ บาท ตามมาตรา ๑๓๐ (๘) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. ๒๔๘๓ ส่วนที่ขอเกินมา ๑๑๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นค่าเช่าตึกแถวของเจ้าหนี้ที่ลูกหนี้เช่าเป็นสำนักงานกับเป็นเงินที่เจ้าหนี้ได้ทดรองจ่ายคืนให้แก่ลูกค้าของลูกหนี้ไปนั้น ลูกหนี้ไม่ต้องรับผิด เห็นควรให้ยกเสีย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้นางกิตติมาเจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ ๗๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่ขอเกินมา ๑๑๐,๐๐๐ บาทให้ยก ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
นางกิตติมาเจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
นางกิตติมาเจ้าหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ตามฎีกาของเจ้าหนี้ เรื่องเงินค่าเช่าตึกแถว เจ้าหนี้ฎีกาว่าแม้จะไม่ได้ทำสัญญาเช่ากัน แต่ก็ได้มีการเช่ากันจริง จึงอาจพิจารณาให้เป็นค่าตอบแทนหรือค่าเสียหายก็ย่อมได้ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ค่าตอบแทนที่กล่าวถึงนี้ ความประสงค์ของเจ้าหนี้ก็คงหมายถึงค่าเช่าตึกแถวนั่นเอง การเช่าตึกแถวเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เมื่อไม่ได้ทำสัญญาเช่ากันไว้เป็นหนังสือและตามทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ไม่ปรากฏว่ามีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสืออย่างหนึ่งอย่างใดลงลายมือชื่อของลูกหนี้ผู้เช่าอันจะเป็นเหตุให้เจ้าหนี้ฟ้องร้องบังคับคดีได้ตามนัยมาตรา ๕๓๘ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เจ้าหนี้จึงไม่อาจจะบังคับเอาค่าเช่าจากลูกหนี้ได้ และจะบังคับเอาค่าเสียหายก็ไม่ได้ เพราะลูกหนี้มิได้เข้าไปอยู่หรือใช้ประโยชน์ในตึกแถวของเจ้าหนี้โดยการทำละเมิดต่อเจ้าหนี้ จึงไม่จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้
พิพากษายืน

Share