คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 922/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนสั้นชนิดรีวอลเวอร์ขนาด .32 แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว จำเลยพาอาวุธปืนดังกล่าวติดตัวไปในทางสาธารณะหมู่บ้านโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุอันควร จึงมีความผิดตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ มาตรา 8 ทวิ, 72 ทวิ ฯลฯ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 แต่เป็นการกระทำผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท เมื่อลงโทษบทหนักแก่จำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ แล้ว จะลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 อีกไม่ได้ ปืนของกลางเป็นปืนที่จำเลยได้รับอนุญาตโดยชอบ ไม่ทำให้ตกเป็นปืนที่ผิดกฎหมายทั้งบทลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนดังกล่าวก็ไม่ได้ให้อำนาจศาลสั่งริบ จึงริบเป็นของกลางไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว บังอาจพกพาอาวุธปืนพกสั้นชนิดรีวอลเวอร์ขนาด .๓๒ จำนวน ๑ กระบอก พร้อมกระสุน ๖ นัดของจำเลยที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนดังกล่าวไปในทางสาธารณะ หมู่บ้านโดยเปิดเผยโดยไม่มีเหตุอันสมควรและเร่งด่วน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ, ๗๒ ทวิ ฯลฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ, ๗๒ ทวิ ฯลฯ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ ปรับ ๒,๐๐๐ บาท จำเลยรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงปรับ ๑,๐๐๐ บาท ฯลฯ อาวุธปืนของกลางให้รับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าไม่ริบอาวุธปืนของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ริบอาวุธปืนของกลาง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อจำเลยกระทำผิดกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท และลงโทษบทหนักแก่จำเลย ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ แล้ว จึงลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ไม่ได้ เมื่อลงโทษจำเลยตามพระราชอาวุธปืน ฯลฯ และอาวุธปืนของกลางนี้จำเลยได้รับอนุญาตโดยชอบ ไม่ทำให้ปืนที่มีใบอนุญาตตกเป็นปืนที่ผิดกฎหมาย บทลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ ดังกล่าวไม่ได้ให้อำนาจศาลสั่งริบ จึงรับอาวุธปืนของกลางไม่ได้
พิพากษายืน

Share