แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย 10 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยเมื่อลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 แล้วมีกำหนด 2 ปี เป็นการแก้เฉพาะกำหนดโดย ไม่ได้แก้บท เป็นการแก้น้อย จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีวัตถุระเบิดขว้างชนิดสังหาร ๑ ลูก ซึ่งเป็นวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ตามกฎหมาย ไว้ในความครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ ฯลฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๕๕, ๗๘ ฯลฯ จำคุก ๑๐ ปี ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าจำเลยกระทำผิดจริงแต่ที่ศาลชั้นต้นวางโทษจำคุกจำเลย ๑๐ ปี เห็นว่าสูงเกินไป ทั้งปรากฏตามคำให้การของจำเลยมีอายุ ๑๗ ปี ได้พิเคราะห์อายุประกอบกับพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว สมควรวางโทษจำคุกให้น้อยลง พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยเมื่อลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๕ แล้วมีกำหนด ๒ ปี นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยน้อยเกินไป ขอให้วางโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลย ๑๐ ปี แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุก ๒ ปี เห็นว่าศาลอุทธรณ์แก้เฉพาะกำหนดโทษ ไม่ได้แก้บท เป็นการแก้น้อยฎีกาโจทก์เป็นข้อเท็จจริงต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑ ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยพิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์