คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 963/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยิงผู้ตายซึ่งเป็นภริยาจำเลย ก็โดยจิตบกพร่อง แต่จำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง ตามกฎหมาย จำเลยจะต้องรับโทษสำหรับความผิดนี้ โดยศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
จำเลยมีบุตรอยู่ในความเลี้ยงดูของจำเลยอีก 7 คน หากจำเลยต้องถูกลงโทษแล้ว บุตรของจำเลยซึ่งยังเป็นเด็กจะขาดผู้ให้ความอุปการะ และอบรมสั่งสอน (เพราะภริยาจำเลยตายแล้ว) สมควรจะรอการลงโทษจำเลย เพื่อให้จำเลยเลี้ยงดูบุตรและกลับตนเป็นคนดีตลอดจนรักษาตัวของจำเลยให้ดีขึ้น.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ปืนพกยิงนางสังวาลย์ ศรีพุทธิรัตน์ ภริยาจำเลยโดยเจตนาฆ่านางสังวาลย์ นางสังวาลย์ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การว่า เป็นโรคเส้นประสาท ได้ยิงนางสังวาลย์ในขณะวิกลจริต ไม่รู้สึกตัว ไม่มีเจตนา
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยยิงนางสังวาลย์ขณะจำเลยยังรู้สึกผิดขอบอยู่บ้าง พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๖๕ จำคุก ๖ ปี ๘ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยยิงผู้ตายจริง แต่จำเลยเป็นโรคเส้นประสาท ฟังได้ว่าที่จำเลยยิงผู้ตายก็โดยจิตบกพร่อง แต่จำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้าง ตามกฎหมายจำเลยจะต้องรับโทษสำหรับความผิดครั้งนี้ โดยศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ และโดยที่จำเลยมีบุตรอยู่ในความเลี้ยงดูอีก ๗ คน หากจำเลยต้องถูกลงโทษแล้ว บุตรของจำเลยซึ่งยังเป็นเด็กจะขาดผู้ให้ความอุปการะและอบรมสั่งสอน สมควรจะรอการลงโทษจำเลยไว้สักครั้ง เพื่อให้จำเลยเลี้ยงดูบุตรและกลับตนเป็นคนดีตลอดจนรักษาตัวของจำเลยให้ดีขึ้น ทั้งนี้ ก็เพื่อประโยชน์แก่เด็กในอนาคตอีกด้วย
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๖๕ ลงโทษจำคุกจำเลย ๒ ปี แต่ให้รอการลงโทษไว้ ๓ ปี ปืนของกลางริบ.

Share