คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9016/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฎีกาของจำเลยที่ว่า จำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การภายในกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดตามหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องที่ส่งไปยังจำเลยที่ 1 มาตั้งแต่แรก แต่ความผิดพลาดดังกล่าวเกิดจากการรายงานผลการส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องของพนักงานเดินหมาย จำเลยที่ 1 มีเจตนาที่จะยื่นคำให้การภายในกำหนดแล้ว หาได้มีเจตนาหรือจงใจขาดนัดยื่นคำให้การแต่อย่างใดนั้น ไม่เป็นการโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 มาศาลเมื่อเริ่มต้นสืบพยานแต่มิได้แจ้งให้ศาลทราบถึงเหตุที่ตนมิได้ยื่นคำให้การ โดยเพิ่งมายื่นคำร้องขออนุญาตยื่นคำให้การภายหลัง จึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดตามป.วิ.พ. มาตรา 199 วรรคหนึ่ง ว่าเป็นการไม่ชอบหรือไม่อย่างไร จึงเป็นฎีกาไม่ชัดแจ้งไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยที่ ๑ ไม่ยื่นคำให้การภายในกำหนด จึงไม่รับคำให้การและสั่งว่าจำเลยที่ ๑ ขาดนัด ยื่นคำให้การแล้ว ศาลชั้นต้นสืบพยานครั้งแรกวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๔๑ ทนายจำเลยที่ ๑ มาศาล แต่ก็ไม่ได้แจ้งให้ศาลทราบก่อนเริ่มสืบพยานถึงสาเหตุที่จำเลยที่ ๑ มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนด ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๑ จำเลย ที่ ๑ ยื่นคำแถลงชี้แจงเหตุที่ไม่ได้ยื่นคำให้การภายในกำหนดอ้างว่าพนักงานเดินหมายระบุในหมายว่าเป็นการรับหมาย ทั้งที่เป็นการปิดหมาย จำเลยที่ ๑ จึงยื่นคำให้การภายในกำหนดระยะเวลาตามที่ระบุไว้ ขอให้ศาลชั้นต้นยกเลิกคำสั่ง ให้จำเลยที่ ๑ ขาดนัดยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำแถลง ครั้นวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๑ จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้อง ขออนุญาตยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องแจ้งเหตุที่ตนมิได้ยื่นคำให้การเมื่อพ้นเวลาที่กฎหมายอนุญาตตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๙๙ วรรคหนึ่ง ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ จำเลยที่ ๑ โต้แย้งคำสั่งดังกล่าว ศาลชั้นต้นสืบพยานจนเสร็จการพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ชำระเงินให้แก่โจทก์กับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ให้เป็นพับ
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่าจำเลยที่ ๑ ยื่นคำให้การภายในกำหนดระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดตามหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องที่ส่งไปยังจำเลยที่ ๑ มาตั้งแต่แรก แต่ความผิดพลาดดังกล่าวเกิดจากการรายงานผลการส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้อง ของพนักงานเดินหมายจำเลยที่ ๑ มีเจตนาที่จะยื่นคำให้การภายในกำหนดแล้ว หาได้มีเจตนาหรือจงใจขาดนัดยื่นคำให้การ แต่อย่างใดนั้น
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ฎีกาของจำเลยไม่เป็นการโต้แย้งคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าเป็นการ ไม่ชอบหรือไม่อย่างไร จึงเป็นฎีกาไม่ชัดแจ้ง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔๙ วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาของจำเลยที่ ๑ คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดแก่จำเลยที่ ๑ ค่าทนายความชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share