คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2478

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ดุลพินิจพะยานบุคคล พะยานเอกสาร จะนำพะยานบุคคลมาสืบว่า เอกสารไม่แสดงถึงเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณีไม่ได้ การสืบพะยานบุคคลเพื่ออธิบายความในเอกสารนั้น คู่ความย่อมขอนำสืบได้ ฎีกาอุทธรณ์ปัญหาข้อกฎหมาย ข้อกฎหมายที่มิได้โต้เถียงกันขึ้นมาแต่ชั้นศาลล่างศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ศาลล่างฟังพะยานหลักฐานผิดจากท้องสำนวนหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายคดีที่คนในบังคับอังกฤษเป็นคู่ความ ฎีกาได้แต่ปัญหาข้อกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้วางเงินประกันของคนเฝ้ายามไว้กับจำเลยเป็นเงิน ๓๒๗ บาท แลจำเลยได้จ้างโจทก์เฝ้ายาม ค่าจ้างเดือนละ ๓๐ บาทแล้วจำเลยค้างชำระค่าจ้างโจทก์รวมเป็นเงิน ๖๐ บาท โจทก์จึงฟ้องเรียกเงินประกันแลเงินค่าจ้างที่ค้างชำระคืนจากจำเลยโดยอ้างใบรับเงินประกัน ซึ่งมีลายเซ็นของจำเลยมากับฟ้อง
จำเลยต่อสู้ว่าชื่อผู้วางเงินประกันในใบรับนั้นคือนายมากะสดซันเด ไม่ใช่นายบารูเกซัสปานเดย์ (คือโจทก์)
ศาลเดิมพิพากษาให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าชื่อผู้วางประกันที่ปรากฏในใบรับเงินมีเค้าสำเนียงคล้าย ๆ กันกับชื่อโจทก์ ทั้งปรากฏตามคำพะยานหลักฐานว่าโจทก์เป็นผู้วางเงินประกันไว้กับจำเลย จึงพิพากษาให้จำเลยคืนเงินประกัน ๓๒๗ บาทให้โจทก์
จำเลยฎีกาคัดค้านว่าศาลล่างรับฟังพะยานบุคคลเกี่ยวกับข้อความในใบรับนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายแลว่าศาลล่างฟังข้อเท็จจริงผิดคำพะยานหลักฐานในสำนวน
ศาลฎีกาเห็นว่าตามกฎหมายลักษณพะยาน สัญญาซึ่งทำเป็นลายลักษณอักษรแก้โดยทั่วไปจะนำพะยานบุคคลมาสืบว่าเอกสารที่ทำขึ้นนั้นไม่แสดงถึงเจตนาอันแท้จริงของคู่กรณีหาได้ไม่ แต่เมื่อจะสืบถึงกรณีย์แวดล้อมซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นข้อสำคัญแห่งสัญญาก็ต้องรับฟังพะยานบุคคลประกอบเพื่อช่วยศาลในการแปลความหมายแห่งเอกสารนั้น แต่ปัญหาข้อนี้คู่ความมิได้ยกโต้เถียงกันมาแต่ในชั้นศาลล่าง แลเห็นว่าศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยผิดจากคำพะยานหลักฐานในสำนวน จึงพิพากษาให้ยืนตามศาลอุทธรณ์

Share