คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2929/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นผู้เริ่มก่อตั้งบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ อ. ตลอดจนเป็นผู้ถือหุ้นและเป็นผู้บริหารในตำแหน่งประธานกรรมการ และมีหุ้นถืออยู่ร้อยละ 80.93 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ถือได้ว่าโจทก์มีความเกี่ยวพันกับบริษัทดังกล่าวเป็นพิเศษ ความเชื่อถือของประชาชนต่อธุรกิจของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ อ. จึงอาศัยชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์เป็นสำคัญ ฉะนั้น เมื่อมีผู้กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลายซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงที่เป็นผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกิจการของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ อ. แล้ว โจทก์ก็ย่อมได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณทางทำมาหาได้ของโจทก์ด้วย แม้ว่าบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ อ. จะมีสถานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากโจทก์ก็ตาม ดังนั้น การที่โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่าจากการแถลงข่าวอันเป็นเท็จของจำเลยทั้งสอง เป็นผลให้ประชาชนผู้ฝากเงินเกรงว่าบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ อ. จะไม่มีเงินให้ถอนคืนเพราะขาดสภาพคล่องทางการเงินจึงมารุมถอนเงินมากผิดปกติ อีกทั้งจำเลยได้สั่งให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ อ. หยุดกิจการ และให้โจทก์พ้นจากหน้าที่ การกระทำของจำเลยที่มีผลถึงโจทก์ ถือว่าโจทก์ถูกโต้แย้งสิทธิตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 939,346,100 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 3 มีนาคม 2540 เป็นต้นไปแก่โจทก์ที่ 1 และชำระเงินจำนวน 480,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 3 มีนาคม 2540 เป็นต้นไปแก่โจทก์ที่ 2
ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้จึงสั่งงดสืบพยาน และพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งที่ให้งดสืบพยาน รวมทั้งคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาและมีคำพิพากษาหรือคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาคณะคดีปกครองวินิจฉัยว่า โจทก์ที่ 1 เป็นผู้เริ่มก่อการตั้งบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อินเตอร์เครดิตแอนด์ทรัสต์ จำกัด ตลอดจนเป็นผู้ถือหุ้น และเป็นผู้บริหารในตำแหน่งประธานคณะกรรมการ และมีหุ้นที่โจทก์ที่ 1 ถืออยู่ คิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 80.93 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ถือได้ว่าโจทก์ที่ 1 มีความเกี่ยวพันกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อินเตอร์เครดิตแอนด์ทรัสต์ จำกัด เป็นพิเศษ ความเชื่อถือของประชาชนต่อธุรกิจการเงินที่ประกอบการในนามบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อินเตอร์เครดิตแอนด์ทรัสต์ จำกัด อาศัยชื่อเสียงและเกียรติคุณของโจทก์ที่ 1 เป็นสำคัญ เมื่อมีผู้กล่าวหรือไขข่าวแพร่หลาย ซึ่งข้อความอันฝ่าฝืนต่อความจริงที่เป็นผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกิจการของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อินเตอร์เครดิตแอนด์ทรัสต์ จำกัด แล้ว โจทก์ที่ 1 ก็ได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียงหรือเกียรติคุณหรือทางทำมาหาได้ของโจทก์ที่ 1 ด้วย แม้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อินเตอร์เครดิตแอนด์ทรัสต์ จำกัด จะมีสถานะเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจากโจทก์ที่ 1 ก็ตาม การที่โจทก์ทั้งสองบรรยายฟ้องจากการแถลงข่าวอันเป็นเท็จของจำเลยทั้งสองเป็นผลให้ประชาชนผู้ฝากเงินเกรงว่าบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อินเตอร์เครดิตแอนด์ทรัสต์ จำกัด จะไม่มีเงินให้ถอนคืนเพราะขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงมารุมถอนเงินมากผิดปกติ อีกทั้งจำเลยที่ 1 ได้สั่งให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อินเตอร์เครดิตแอนด์ทรัสต์ จำกัด หยุดกิจการและให้โจทก์ที่ 1 พ้นจากหน้าที่ การกระทำของจำเลยทั้งสองที่มีผลถึงโจทก์ทั้งสอง ถือว่าโจทก์ทั้งสองถูกโต้แย้งสิทธิตามความหมายของ ป.วิ.พ. มาตรา 55 ศาลชั้นต้นชอบที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาเป็นพับ.

Share