คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 992/2539

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 และผู้ตายชกต่อยกัน จำเลยที่ 3 เข้าไปเตะที่กลางหลังผู้ตาย ส่วนจำเลยที่ 2 เข้าไปตบหน้าผู้ตายเป็นเหตุให้ผู้ตายเสียหลักล้มแล้วจำเลยที่ 1 เข้ากระทืบที่ร่างผู้ตายตรงบริเวณลำคอหลายครั้งจนกระทั่งผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ เมื่อทางนำสืบของพยานโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2และที่ 3 มีเจตนาร่วมกันไปฆ่าผู้ตายแต่แรก ประกอบกับจำเลยทั้งสามไม่ได้ใช้อาวุธทำร้ายผู้ตายแต่อย่างใด อีกทั้งการกระทำของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ล้วนแต่มิได้ก่อให้เกิดบาดแผลแก่ผู้ตายถึงขนาดจะเป็นเหตุแห่งความตายได้ ส่วนที่ผู้ตายถึงแก่ความตายเนื่องจากจำเลยที่ 1 กระทืบที่ลำตัวและคอผู้ตาย เป็นการกระทำและเป็นเจตนาที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวจำเลยที่ 1 ที่ต้องการให้ผู้ตายถึงแก่ความตายซึ่งจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่อาจคาดหมายหรือเล็งเห็นมาก่อนว่าจำเลยที่ 1อาจฆ่าผู้ตาย จึงไม่อาจถือได้ว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีเจตนาร่วมกันเป็นตัวการฆ่าผู้ตาย ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้ตายมาก่อนเหตุทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นระหว่างเดินทางไปด้วยกัน น่าเชื่อว่าเหตุทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นทันทีทันใด จึงต้องสันนิษฐานให้เป็นคุณแก่ผู้กระทำความผิดว่าจำเลยทั้งสามไม่มีเจตนาร่วมกันทำร้ายผู้ตาย แต่เป็นกรณีที่ต่างคนต่างทำร้ายผู้ตายเป็นการเฉพาะตัวจำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงต้องรับผิดเฉพาะการกระทำของตน ซึ่งเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 295 ประกอบมาตรา 83 เท่านั้น

Share